การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดแบบผสมผสานในการซื้อขายเมื่อคืนวันที่ 26 เม.ย.66
-ดาวโจนส์ ลดลง 228.96 จุด (0.68%) ปิดที่ 33,301.87 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 15.64 จุด (0.38%) ปิดที่ 4,055.99 จุด
ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 กังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)และผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่มีต่อเศรษฐกิจ
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 55.19 จุด (0.47%) ปิดที่ 11,854.35 จุด แนสแดค เคลื่อนไหวในแดนบวก จากรายงานผลประกอบการของไมโครซอฟต์
หุ้นของไมโครซอฟต์ พุ่งขึ้นมากกว่า 7.5% หลังรายงานรายได้และยอดขายรายไตรมาสในแง่บวก รวมถึงผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ นอกจากนี้แล้วแนสแดค ยังได้แรงหนุนจากหุ้นของแอมะซอน ที่ดีดตัวมากกว่า 3% และ ดาต้าด็อก ที่ขยับขึ้นมากกว่า 12%
ในส่วนของอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล รายงายผลประกอบการไตรมาสแรกดีเกินคาดเช่นกันและมีแผนซื้อหุ้นคืน 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หุ้นของบริษัทแห่งนี้แกว่งตัวลง
ราคาหุ้นโบอิ้งพุ่งกว่า 3% หลังบริษัทเปิดเผยแผนการเพิ่มการผลิตเครื่องบิน ขณะที่รายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 1/2566
ส่วนราคาหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ ร่วงลงเกือบ 30% ในการซื้อขายเมื่อวันที่ 26 เม.ย.66 หลังจากธนาคาร เปิดเผยว่า ลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/66 FRB ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 ดิ่งลงเกือบ 50% และหากพิจารณาตั้งแต่ต้นปี 66 ราคาหุ้น FRB ได้ทรุดตัวลงมากกว่า 90%
ในวันนี้ (27 เม.ย.66) ตลาดจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/66 รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์(28 เม.ย.66) ดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟด จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ค.66
ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(26เม.ย.66) ปรับลดลงต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ผลจากการขายทำกำไรหลังจากทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานที่ผ่านมา
-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย.66 เพิ่มขึ้น 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,996.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#หุ้นสหรัฐฯ
#ผลประกอบการไตรมาส1
CR:CNBC,Reuters