ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากผลการศึกษา พบว่าคนไทยมีภูมิจากโควิดแล้วร้อยละ 94 ซึ่งเป็นภูมิจากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อ แต่สำหรับสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ถือว่ายังไม่มีภูมิคุ้มกันสำหรับสายพันธุ์นี้ เนื่องจากปกติถ้าสายพันธุ์ไหนอยู่กับเรานานๆ เราก็จะมีภูมิคุ้มกันในสายพันธุ์นั้นๆ แต่ขณะนี้ ยังมีสายพันธุ์ XBB .1.5 กำลังระบาดในอเมริกา ซึ่งสายพันธุ์นี้ ติดต่อได้เก่งกว่าสายพันธุ์BA ประมาณร้อยละ 17-20
นอกจากนี้ ยังมีโควิดอีก20 กว่าสายพันธุ์ใหม่ๆ ซึ่งน่าจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิมๆ ในอนาคต ดังนั้น วัคซีนจึงเป็นอาวุธที่สำคัญ โดยข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุชัดว่า วัคซีนเป็นตัวช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยสูงอายุได้ 41 เท่า ในเด็ก3 เท่า แต่ปัญหาของวัคซีนคือ ภูมิจะตกลงตามระยะเวลาหลังการฉีด สวนทางโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่จะมีความเก่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น จึงต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และจำเป็นต้องได้เข็ม 3-4 ถึงจะปกป้องสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์เป็นลูกผสมได้ดี
ขณะที่กรมควบคุมโรค แนะนำการรับวัคซีนโควิด 19 ประจำปี คือ
-ฉีดปีละ 1 เข็ม เริ่มปี 2566 เป็นต้นไป
-ฉีดตั้งแต่เดือนเมษายน ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน
-ฉีดห่างจากเข็มสุดท้าย หรือการติดเชื้อครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 3 เดือน
-ฉีดพร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ โดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง
-หากฉีดไม่พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะห่างกี่วันก็ได้
#โควิดสายพันธุ์ใหม่
#วัคซีนโควิด