คืบหน้าสถานการณ์ในซูดาน หลังการปะทะของกำลังทหารจากทั้งสองฝ่าย 9 วันแล้ว มีคนเสียชีวิตกว่า 400 ราย หลายประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักรได้อพยพเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตสหราชอาณาจักรและครอบครัวจากกรุงคาร์ทูมเมื่อวาน แต่ยังคงมีการปะทะกันอย่างดุเดือดในหลายท้องที่ รวมถึงบริเวณสนามบินในกรุงคาร์ทูม อีกทั้งระบบสื่อสารและอินเตอร์เน็ตล่มทำให้เป็นอุปสรรคต่อการติดต่อสื่อสาร
บีบีซีรายงานว่า นายแอนดรูว์ มิตเชล รัฐมนตรีการพัฒนากิจการแอฟริกา สำนักการต่างประเทศ เครือจักรภพ และการพัฒนาของสหราชอาณาจักร แนะนำนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักรให้อยู่แต่ในอาคารบ้าน หรือโรงแรมที่พัก เพื่อความปลอดภัย เพราะข้างนอกอันตรายมาก พร้อมแนะนำพวกเขาให้รอติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพิ่มเติมว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรอยู่ระหว่างพิจารณาทุกๆมาตรการที่ทำได้ เพื่อช่วยอพยพนักท่องเที่ยวออกจากซูดานโดยปลอดภัย
นายมิตเชล กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบในซูดาน ระบุว่า สถานทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงคาร์ทูมตั้งอยู่ในพื้นที่อันตราย เนื่องจากมีการสู้รบจากหน่วยรบทั้งสองฝ่ายของซูดาน ซึ่งอาจจะทำให้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหราชอาณาจักรหรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตอื่นๆในกรุงคาร์ทูมได้รับอันตราย พร้อมทั้งย้ายสถานทูตสหราชอาณาจักรจากซูดานไปประจำยังกรุงแอดดิส อาบาบา เอธิโปเปีย ชั่วคราว
เมื่อนักข่าวถามว่า เขาจะแนะนำนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักรในซูดานไม่ให้ใช้วิธีหลบหนีออกมาจากซูดานในระยะนี้หรือไม่ ซึ่งนายมิตเชล กล่าวว่า ข้อแนะนำเพียงอย่างเดียวคือ รัฐบาลสหราชอาณาจักรขอให้พลเมืองชาวสหราชอาณาจักรในซูดานอยู่แต่ในอาคารหรือโรงแรมที่พัก ในปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักรราว 2,000 คนลงทะเบียนกับสถานทูตสหราชอาณาจักรในซูดาน
ก่อนหน้านี้ นายเจมส์ คลีฟเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศ ขอให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายของซูดานหยุดยิงและยุติเหตุรุนแรงในซูดานโดยเร็ว แนะนำให้ชาวสหราชอาณาจักรในซูดานลงทะเบียนกับสถานทูตสหราชอาณาจักรประจำซูดานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าพวกเขาเป็นใครและอยู่ที่ไหนในซูดาน ยอมรับว่าถ้าคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายของซูดานยังสู้รบกัน การเข้าไปอพยพพลเมืองสหราชอาณาจักรออกจากซูดานแทบจะไม่มีทางทำได้อย่างปลอดภัย
นายอันโตนิโอ ทาจานี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นของอิตาลีว่า อิตาลีใช้ปฏิบัติการอย่างยากลำบากในการอพยพพลเมืองชาวอิตาลี 150 คนทางเครื่องบินจากซูดานไปยังสาธารณรัฐจิบูตีซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของซูดาน
ผู้อพยพดังกล่าวรวมถึงเด็ก ผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตอิตาลี เจ้าหน้าที่จากองค์กรการกุศลและนักธุรกิจ โดยเอกอัครราชทูตอิตาลีและเจ้าหน้าที่ทหารของอิตาลีประจำซูดานเป็นเจ้าหน้าที่ชุดสุดท้ายที่อพยพออกจากซูดาน ขณะเดียวกัน ประเทศอื่นๆเช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนีและสเปนได้อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและพลเมืองจากประเทศอื่นๆออกจากซูดานแล้วเช่นเดียวกันประเทศอื่นๆเช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนีและสเปนได้อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและพลเมืองจากประเทศอื่นๆออกจากซูดานเช่นเดียวกัน เช่น พลเมืองจากอาร์เจนตินา โคลอมเบีย ไอร์แลนด์ โปรตุเกส เม็กซิโก เวเนซุเอลาและซูดาน
ขณะที่ตุรกี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยอพยพชาวต่างชาติออกจากซูดาน ได้จัดรถประจำทาง 13 คัน อพยพชาวตุรกีและชาวต่างชาติรวม 1,140 คน ออกจากซูดาน รวมถึงพลเมืองจากอาเซอร์ไบจาน ญี่ปุ่น ประเทศจีน เม็กซิโกและเยเมน
ด้านนายโจเซฟ บอร์เรล ประธานนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ขอบคุณฝรั่งเศสที่ช่วยอพยพประชาชนจากกลุ่มอียูกว่า 1,000 คนออกจากซูดาน นอกจากนี้ มีการอพยพชาวต่างชาติอีกกว่า 150 คน ส่วนใหญ่จากประเทศในตะวันออกกลาง อียิปต์ ปากีสถานและแคนาดาจากซูดานโดยทางเรือมุ่งหน้ายังเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย
#สหราชอาณาจักร
#อย่าอพยพ