สำนักงานศุลกากรของจีน เปิดเผยตัวเลขเรื่องน้ำมันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(21 เม.ย.66) ชี้ว่า การน้ำเข้าน้ำมันดิบของจีนเมื่อเดือนมี.ค.66 สูงเป็นสถิติใหม่ จีนนำเข้าน้ำมันดิบจากซัพพลายเออร์รายใหญ่ คือ รัสเซียและซาอุดีอาระเบีย แห่งละ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่สัดส่วนการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นน้ำมันในเอเชียยังอ่อนแอ รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ในจีนและอินเดีย แต่นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์หลายคน คาดการณ์ในเชิงบวกว่า ความต้องการใช้น้ำมันของจีนอาจจะเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้
เรื่องอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนส่วนใหญ่ คาดว่า ธนาคารกลางของสหรัฐฯ อังกฤษและธนาคารกลางยุโรป อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.66 นี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งยังสูงเกินเป้าหมาย คือ ร้อยละ 2
นางตินา เต็ง นักวิเคราะห์จากบริษัท ซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์(CMC Markets) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (24 เม.ย.66) ราคาน้ำมันร่วงลง จากความกังวลของนักลงทุนในเรื่องดอกเบี้ยซึ่งยังคงอยู่ในอัตราที่สูง ตลอดถึงภาวะเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และความกังวลเรื่องอุปสงค์ด้านน้ำมัน มีผลกระทบมากกว่าปัจจัยลบอื่นๆ เช่น ภาวะน้ำมันในตลาดโลกที่อาจจะตึงตัวมากขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส รวมถึงรัสเซีย ประกาศลดกำลังการผลิตราว 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.66 ในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้
-ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ ร่วงลง 48 เซนต์ หรือร้อยละ 0.6 อยู่ที่ 81.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัส สหรัฐฯ ร่วงลง 48 เซนต์ หรือร้อยละ 0.6 อยู่ที่ 77.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ หลังสหรัฐฯ ระบุว่า ความต้องการด้านน้ำมันเบนซิน ลดลงจากช่วงปีก่อน ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลภาวะเศรษฐกิจอาจจะถดถอยในสหรัฐฯ ผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก
#โอเปกพลัส
#เศรษฐกิจโลกถดถอย