นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ผู้นำอิตาลี เรียกร้องให้สหภาพยุโรปหรืออียู ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 28 ประเทศมีการทำงานที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพทางเรือที่พยายามเดินทางผ่านทะเลเมดิเตอเรเนียน เพื่อหวังขึ้นฝั่งประเทศอิตาลีและเดินทางต่อไปยังส่วนอื่นๆ ของทวีปยุโรป ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีกล่าวว่า สถานการณ์การค้ามนุษย์และผู้อพยพทางเรือกำลังเป็นภัยพิบัติของของยุโรป และยุโรปไม่เคยเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตามคำตำหนิอย่างรุนแรงขององค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่ง
คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีอิตาลีมีขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุเรือผู้อพยพจากลิเบียจมในทะเลเมดิเตอเรเนียนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 700 คนและนับตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมามีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,500 คน ทั้งพบว่า ขบวนการค้ามนุษย์ฉวยโอกาสจากเหตุรุนแรงในลิเบีย แอฟริกา และตะวันออกกลางในการกระทำผิดกฎหมายด้วยการหลอกลวงว่าสามารถชวยเหลือประชาชนจากประเทศเหล่านี้ ให้เริ่มต้นชีวิตที่ดีกว่าในยุโรปได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเรนซีกล่าวว่า ผู้อพยพชาวลิเบียมากถึงร้อยละ 90 ที่หลบหนีการสู้รบภายในประเทศด้วยการเดินทางทางเรือ แต่การช่วยเหลือผู้อพยพก็เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุและไม่ถูกจุด ทุกฝ่ายควรร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นั่นคือการหาทางยับยั้งไม่ให้เกิดเรือมนุษย์
ส่วนนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสหภาพยุโรป (อียู) กำลังพิจารณาจัดการประชุมฉุกเฉินระดับภูมิภาค ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของเรนซีและผู้นำอีกหลายประเทศในยุโรป
..