ตร.ออกหมายจับ 2 คนร้ายชาวจีน ก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาติเดียวกัน

          พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง ชุดสืบนครบาล เพื่อติตตามความคืบหน้ากรณีคนร้ายชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวจีนในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 ต่อเนื่องวันที่ 18 เมษายน 2566 ผู้เสียหายหญิงชาวจีน อายุ 25 ปี ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่าน RCA กับเพื่อนชายชาวจีน 1 คน ซึ่งชักชวนผู้เสียหายไปที่คอนโดย่านพระราม 9 เป็นห้องเช่าต่อจากบุคคลอื่น เมื่อไปถึงห้องพักปรากฏว่าพบชายชาวจีนอีก 1 คน อยู่ภายในห้อง ทั้งคู่ช่วยกันมัดผู้เสียหาย แล้วชิงทรัพย์ เป็นโทรศัพท์ไอโฟน14 จำนวน 1 เครื่อง เงินสดสกุลหยวน และทั้งทรัพย์สินอื่นๆ รวมเป็นเงินกว่า 427,500 บาท

          จากนั้นคนร้ายทั้งสองก็ได้ออกจากห้องไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศในช่วงเช้าของวันที่ 18 เมษายน 2566

          พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า คดีนี้มีคนร้าย 2 คนคือ คือ นายตัง ซิ เหว่ย หรือนายจาง จี้ หมิง รูปร่างผอม หลังก่อเหตุเดินทางด้วยเครื่องบินออกนอกประเทศ ปลายทางคือกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ส่วนคนร้ายอีกคนคือ นายซู เหว่ย รูปร่างค่อนข้างอ้วน หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับไปบ้านพักย่านสุทธิสาร ซึ่งมีชาวจีนพักอาศัยอยู่อีก 7 คน จากการตรวจสอบไม่พบความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงนักท่องเที่ยวทั่วไป

          สำหรับนายตัง ซิ เหว่ย มีประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 3 ครั้ง ส่วนนายซู เหว่ย มีประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทย 12 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2560 ทุกครั้งเดินทางเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว

          ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประเทศจีน และวางแผนเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย โดยมีการเช่าห้องตั้งแต่วันที่ 16-19 เมษายน และสุ่มเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาวชาวจีน โดยมีการทำความรู้จักตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน และชักชวนมาที่ห้องในวันที่ 17 เมษายน เพืื่อลงมือก่อเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ และข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการโดยใช้กำลังประทุษร้าย หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ และได้ประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อติดตามตัวต่อไป

          นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบที่มาของพาสปอร์ตทั้ง 2 เล่มของนายตัง ซิ เหว่ย ว่ามาจากประเทศไทยหรือจีนด้วย

          พลตำรวจตรี นพศิลป์ ยอมรับว่าในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีการก่อเหตุระหว่างชาวจีนเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ จึงมีการประสานกับทางการจีนเพื่อให้มีการกวดขันเข้มงวด ตรวจสอบชาวจีนที่มีหมายจับในประเทศจีน นอกจากนี้ ขอความร่วมมือประชาชน หากพบชาวจีนที่มีลักษณะจะก่อเหตุ มีการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก มีการกว้านซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ ส่งเสียงดัง หรือพฤติการณ์ที่ผิดปกติอื่นๆ ขอให้ติดต่อ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

....

#นักท่องเที่ยวจีน

#ห้วยขวาง

#สืบนครบาล