บลูมเบิร์ก รายงานว่า ค่าไฟฟ้าในฝรั่งเศสจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในฤดูหนาวของปีหน้า เนื่องจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีการใช้งานมีการใช้งานเป็นเวลานานแล้ว ทำให้การผลิตไฟฟ้าของประเทศอ่อนแอลง ต้องเพิ่มการนำเข้าจากเยอรมนี
ฝรั่งเศสผลิตไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 70 จากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จำนวน 56 เครื่อง ซึ่งทั้งหมดดำเนินการโดย EDF ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ส่วนใหญ่ใช้งานมานานแล้ว จึงต้องปิดซ่อมบำรุงเป็นระยะ ทำให้การผลิตไฟฟ้าลดลง และส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าของฝรั่งเศสในไตรมาสแรกของปี 2567 อยู่ที่ 416 ยูโร (455 ดอลลาร์) ต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) หรือมากกว่าสองเท่าของอัตรา 169 ยูโรของเยอรมนี
นอกจากนี้ ฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นผู้ส่งออกไฟฟ้า อาจต้องนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเยอรมนี เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในฤดูหนาวปีหน้า
ในขณะเดียวกัน เยอรมนียุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์เชิงพาณิชย์ แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางพลังงาน และต้องพึ่งพาโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้น
นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส เปิดเผยว่า การตั้งเพดานค่าไฟฟ้าของฝรั่งเศสจะคงอยู่อัตราที่สูงต่อไปอีก 2 ปี คือจนถึงปี 2568 จึงจะสามารถกลับสู่ระดับปกติ
ค่าไฟฟ้าในยุโรปพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ในปี 2565 เนื่องจากสงครามยูเครน และการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในฝรั่งเศสที่แตะระดับต่ำสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และการคงเพดานราคาไฟฟ้าไว้จนถึง 2 ปีข้างหน้า จะทำให้สถานการณ์การเงินของ EDF ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น
…
#ค่าไฟฝรั่งเศส
#พลังงานนิวเคลียร์
#เยอรมนี