ในวันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะแถลงผลงานในรอบ 6 เดือน ซึ่งจะเน้นไปที่การแก้ปัญหาค่าครองชีพ และการดูแลราคาสินค้าเกษตร
ส่วนเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ประเมินว่าหากการส่งออกไม่ติดลบ หรือกลับมาเป็นบวกได้ช่วงไตรมาส 2/58 จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ จีดีพี เติบโตได้ร้อยละ 4 เนื่องจากช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม การลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยวยังเดินได้อย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาคครัวเรือนค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเห็นว่า การที่เศรษฐกิจยังคึกคักไม่เต็มที่ เป็นผลจากการจัดระเบียบสังคมและการเคร่งครัดกับธุรกิจที่ผิดกฎหมายจึงส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ แต่เมื่อมีการเดินหน้าปฏิรูปและจัดระเบียบให้ถูกต้อง ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตได้มากกว่านี้
ด้านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่านักลงทุนจากจีน-ญี่ปุ่น-สหรัฐ-ยุโรป ยื่นเรื่องขอตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามชาติ และบริษัทการค้าระหว่างประเทศในไทย ใช้เป็นฐานลงทุนและการค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนางหิรัญญา สุจินัย รักษาราชการแทนเลขาธิการ บีโอไอ เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญคือสิทธิประโยชน์ต่างๆ และมาตรการส่งเสริมจากกระทรวงการคลัง ตลอดจนความพร้อมด้านสาธารณูปโภคทำให้ไทยมีความได้เปรียบ
ซึ่งนายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และรองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การตั้งกิจการสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ และกิจการบริษัทการค้าระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่สำคัญในการผลักดันให้ไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการค้า การลงทุน โดยเฉพาะการลดภาษีนิติบุคคลเหลือร้อยละ 10 และเห็นว่า รัฐบาลควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนในต่างประเทศ โดยการยกเว้นภาษีในการนำเงินกลับประเทศ
ส่วนทีมกฎหมายเฉพาะกิจ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะส่งรายงานสรุปสุดท้ายการตรวจสอบพื้นที่สนามแข่งรถโบนันซ่า จากนั้นจึงจะเรียกเจ้าของมาเจรจาให้ออกจากพื้นที่หรือฟ้องขับไล่ต่อไป ซึ่งนางเปรมจิต สังขพงษ์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก.เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนปัญหาบ้านพักพิธีกรชื่อดัง เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ของประกาศเขตพระราชกฤษฎีกาปฏิรูปที่ดิน และอาจมีปัญหาว่ามีการจำแนกมาจากป่าไม้ถาวรแล้วในขณะนั้น กับมีการออก น.ส.3ก มาด้วยหรือไม่ ซึ่งจะเป็นกรณีที่คล้ายกับสนามแข่งรถและรีสอร์ทโบนันซ่า ที่อ้างเอกสารสิทธิตามกฎหมายที่ดิน แต่กระบวนการได้มาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะป่าไม้ถาวรถือเป็นเขตที่ดินหวงห้ามของทางราชการ การออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิโดยการเดินสำรวจไม่สามารถทำได้ ซึ่งโฉนดหรือเอกสารสิทธิอื่นๆ จะผิดกฎหมายตามกฎหมายที่เดินเองด้วย
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ทั่วประเทศมีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุกโดยการเข้าไปปลูกสวนยางพารามากกว่า 4 ล้านไร่ทั่วประเทศ จึงตั้งเป้าหมายว่า ภายในปีนี้ จะเข้าตรวจยึดและดำเนินคดีนายทุนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 400,000 ไร่ โดยภาพรวมทั้งประเทศเวลานี้ สามารถยึดคืนพื้นที่ป่ามาได้แล้ว 49,000 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ยางพาราอย่างเดียว 12,000 ไร่ และเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำป่าสัก รวมกับพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จ.เลย อีกราว 21,000 ไร่
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ปัญหาของการเข้าไปยึดคืนป่าสงวนแห่งชาติเวลานี้คือการทำงานที่ทับซ้อนกันระหว่างหน่วยงานรัฐ โดยตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ กรมป่าไม้จะรื้อฟื้นและขยายผลคดีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง (เขาแผงม้า) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จำนวน 43 คดีขึ้นมาใหม่หลังจากหยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2554 โดยคดีทั้งหมดยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวัง–น้ำเขียว และเจ้าของตัวจริงของบ้านพักและรีสอร์ตทั้ง 43 คดีล้วนแต่เป็นผู้มีอิทธิพลแทบทั้งสิ้น ซึ่งจากการหารือกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้แจงถึงปัญหาและความจำเป็นของการดำเนินคดี ทางกรมป่าไม้จึงจะโอนคดีทั้งหมดไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือไปถึง สตช.แล้ว
ส่วนนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า วันที่ 23 เมษายนนี้ จะประชุมหัวหน้าอุทยานฯ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีกับนายทุนที่บุกรุกอุทยานฯ ทำสวนยาง จำนวน 2 แสนไร่ ซึ่งส่วนใหญ่กรมอุทยานฯ จับกุมดำเนินคดีแล้ว โดยจะเร่งรัดให้มีการดำเนินคดีเร็วขึ้น บางส่วนจะต้องใช้มาตรา 22 เข้ารื้อถอนทุบทิ้ง
และคดีระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทางพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมนายซาบีดี สาและบิง อายุ 33 ปี ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นครูอัตราจ้างของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และนายอับดุลลาซะ ดูมีแด พนักงานขับรถองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา หลังพบว่า ทั้ง 2 คน มีความเชื่อมโยงคดี ขณะนี้อยู่ในความควบคุมของทหารตามกฎอัยการศึก ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) 3 คน ยังถูกควบคุมตัวต่อ และจากการตรวจสอบ ภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถต้องสงสัยทั้งสิ้น 4 คัน
ส่วนคดีแชร์ลูกโซ่บริษัท ยูฟัน สโตร์ ซึ่งยังมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่อง หลังกจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ติดตามอายัดทรัพย์ และจับกุมผู้บริหารที่รว่มกันฉ้อโกงประชาชนได้แล้วหลายราย ซึ่ง พล.ต.ท.สุริระ ทรงเมตรตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า มีผู้เข้าแจ้งความแล้ว 46 คน มูลค่าความเสียหาย 22 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดไว้ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะยึดตามขั้นตอนกระบวนการและนำขายทอดตลาดโดยเร็ว เพื่อนำเงินมาแบ่งคืนให้ผู้เสียหาย ส่วนประเด็นการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีไปต่างประเทศนั้น ต้องรอให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก่อนจึงจะดำเนินการได้ ซึ่งมีอยู่ 4-5 คน
...