27 เม.ย.นี้ ชมปรากฎการณ์ ‘ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก’ใน กทม. อุณหภูมิสูงสุดที่ 36 องศาฯ

          สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ระบุว่า ในวันที่ 27 เม.ย.66 เวลา 12.16 น. ดวงอาทิตย์จะตั้งตรงศีรษะหรือตั้งฉากกับกรุงเทพมหานคร (ครั้งที่ 1)  เมื่อยืนกลางแดดในช่วงเวลาดังกล่าว จะทำให้ไร้เงา  ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย  โดยเริ่มจากทางใต้ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ตรงกับวันที่ 4 เมษายน 2566 เวลา 12.19 น. จากนั้นดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นที่ต่าง ๆ ของไทย ไล่ลำดับขึ้นเหนือมาเรื่อย ๆ และจะสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 12.17 น.

          ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศในวันที่เกิดปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉากที่กรุงเทพฯ  ระบุว่า เนื่องจาก กทม.และปริมณฑล มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 33-36 องศาเซลเซียส จึงยังไม่ทำลายสถิติสูงสุดที่วัดได้ ณ สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2526 ที่อุณหภูมิสูงสุด 40.8 องศาเซลเซียส  แต่ทั้งนี้ ในวันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับ กทม. ก็อาจเป็นวันที่มีอุณหภูมิสูงสุดเกิดขึ้นได้ แต่ต้องมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องฟ้าโปร่ง และไม่มีลม

          ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายค่าดัชนีความร้อนสูงสุด ประจำวันที่ 21-23 เมษายนนี้ พบว่า วันที่ 21 เมษายน พื้นที่ที่ค่าดัชนีความร้อนสูงอยู่ในระดับอันตรายมาก คือ เขตบางนา กทม. ค่าคาดหมายดัชนีความร้อนอยู่ที่ 54.0  

          ส่วนวันที่ 22 เมษายนนี้ พื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ค่าดัชนีความร้อนอยู่ที่ 41.0 , เขตบางนา กทม.อยู่ที่ 51.6 , ชลบุรี 53.8 และภูเก็ต 49.5 อยู่ในระดับอันตราย 

          ขณะที่ในวันที่ 23 เมษายนนี้ จังหวัดภูเก็ต ค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตรายมากอยู่ที่ 54

          นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ยังเตือนประชาชน ให้เฝ้าระวังในช่วงวันที่ 24-25 เมษายนนี้ บริเวณประเทศไทยตอนบนให้ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

          ด้านนายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองตรวจและเฝ้าระวังสภาวะอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ยังยืนยันว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดทะลุ 40 องศาเซลเซียสในประเทศไทย ยังเป็นผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศไทยในระดับท้องถิ่น ยังไม่ใช่คลื่นความร้อนเหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย และบังกลาเทศ ซึ่งมีอุณหภูมิร้อนสูง 40 องศาเซลเซียสต่อเนื่องหลายวัน และมีการสะสมของความร้อน และมีค่าเฉลี่ยอุณภูมิที่เพิ่มสูงถึงวันละ 5 องศาเซลเซียส ซึ่งทั้งสองประเทศเผชิญคลื่นความร้อนมาตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.

          ปัจจัยจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในตอนนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูร้อนของไทยที่คาดการณ์ว่าจะมีอากาศร้อนจัดถึง 43 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ต้นฤดูของหน้าร้อนมีความร้อนจากความกดอากาศต่ำปกคลุมอย่างต่อเนื่อง มีการสะสมของความร้อน ประกอบกับขณะนี้ ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก ทำให้การรับแสง และมีแดดแรงโดยเฉพาะในภาคกลาง

          ส่วนกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศค่าดัชนีความร้อนสูงสุดถึง 54 องศาฯ นายสมควร กล่าวว่า เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูง แต่ต้องสัมพันธ์กับความชื้นสูงจะทำให้ค่าดัชนีความร้อนสูงสุดทำให้มีการออกประกาศเตือนออกมา

          ขณะที่หน้าร้อนของปีนี้ จะสิ้นสุดในช่วงกลาง เดือนพ.ค.นี้ ดังนั้นยังมีโอกาสที่อุณหภูมิอาจแตะ 40 องศาฯไปอีกเรื่อยๆ แต่ไม่น่าจะทุบสถิติความร้อน  นอกจากนี้ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ประเทศไทยจะเผชิญปรากฎการณ์ เอลนิโญ่แบบปานกลาง ทำให้มีฝนตกน้อยลงเมื่อเทียบกับปี 2562-2563 เสี่ยงเกิดภาวะแห้งแล้งค่อนข้างหนัก และอาจทำให้เผชิญกับความร้อนอีกระลอกก็ได้

#ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก

#อากาศร้อน