*IMF เตือนอัตราแลกเปลี่ยนกดดันเศรษฐกิจโลก/รีพับลิกันเห็นแย้งนโยบายต่างประเทศ/เศรษฐีสื่อสารฟินแลนด์ชนะเลือกตั้ง/ผู้นำซูดานไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ4ปี*

สมาชิกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า ภาวะความเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ประกอบกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก และจะทำให้มีอัตราเติบโตระดับ "พอประมาณ" และ "ภูมิภาคต่างๆ ไม่ได้มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน"  ขณะเดียวกันหลายประเทศยังกังวลว่า กรีซอาจไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ โดยทั้งไอเอ็มเอฟและธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำลังกดดันให้กรีซเสนอแผนการคลังและหนี้สินโดยเร่งด่วน

โดยในการประชุมประจำปีของ ไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก คณะกรรมการอำนวยการของไอเอ็มเอฟ ตั้งข้อสังเกตว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วกำลังมีความเข้มแข็งขึ้น ขณะที่ประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่บางรายกำลังได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขาลงและการส่งออกชะลอตัว

นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อต่ำยังคงเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว แม้มีสัญญาณว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณอีซีบี จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปก็ตาม แต่คณะกรรมการก็ยังเรียกร้องให้คงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส แพร่คลิปวิดีโอฆ่าตัดคอเชลยผู้นับถือศาสนาคริสต์ สัญชาติเอธิโอเปีย กว่า 30 คน ในประเทศลิเบีย นอกจากนี้ ยังมีคำบอกเล่าของผู้นับถือศาสนาคริสต์ในซีเรียที่บอกว่าไอเอสให้ทางเลือกว่าจะยอมเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม หรือยอมจ่ายภาษีพิเศษ ซึ่งเนื้อหาและรูปแบบการถ่ายทำ คล้ายกับคลิปฆ่าตัดคอที่มีการเผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่เป็นการฆ่าตัวคอชาวอียิปต์ 21 คนที่ทำให้รัฐบาลอียิปต์โกรธแค้นเป็นอย่างมาก

บรรดาผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า มีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศในระหว่างการประชุมที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ  โดยวุฒิสมาชิกแรนด์ พอล จากรัฐเคนทัคกี กล่าวโจมตีกลุ่มสายเหยี่ยวทางทหารในพรรครีพับลิกัน ว่าจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศ มากกว่านางฮิลลารี คลินตัน ที่คาดว่าจะได้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ขณะที่วุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ สนับสนุนการใช้กำลังทหารจัดการกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส อย่างไรก็ตามในช่วงสุดท้าย บรรดาสมาชิกรีพับลิกันต่างก็หันมากล่าวโจมตีประธานาธิบดีบารัค โอบามา และนางคลินตัน จากพรรคเดโมแครต

ส่วนสำนักงานดับเพลิงเขตริเวอร์ไซด์ในสหรัฐแจ้งพบไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็วจนคุกคามบ้านหลายร้อยหลังในทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ใกล้เมืองลอสแอนเจลิส  ทำให้ต้องอพยพประชาชนประมาณ 200 ครัวเรือนออกจากพื้นที่

ด้านการเลือกตั้งฟินแลนด์ นายจูฮา ซิปิลา มหาเศรษฐีกิจการโทรคมนาคม ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของฟินแลนด์ หลังผลการนับคะแนนที่ดำเนินไปได้ราวร้อยละ 70 ชี้ว่า พรรคเซ็นเตอร์ของเขาจะได้ที่นั่งในสภาอย่างน้อย 46 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคพันธมิตรแห่งชาติของนายกรัฐมนตรี อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ มีแนวโน้มจะได้เพียง 37 ที่นั่ง แต่พรรคเซ็นเตอร์จะต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นพรรคใด

ทั้งนี้ ประเด็นหลักที่บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ใช้ในการหาเสียก็คือนโยบายเศรษฐกิจ เนื่องจากฟินแลนด์ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนทำให้มีอัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ 9.2

มีรายงานพร้อมภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดที่เผยให้เห็นความคืบหน้าของการดำเนินโครงการของจีนในการก่อสร้างรันเวย์สำหรับเครื่องบินทหารบนแนวปะการังใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ พื้นที่พิพาทระหว่างรัฐบาลปักกิ่ง กับฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ซึ่งเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จรันเวย์แห่งนี้อาจมีความยาวถึง 3,000 เมตร นอกจากนี้ ยังพบว่า จีนยังมีโครงการก่อสร้างรันเวย์บริเวณหมู่เกาะพาราเซล ทางเหนือของทะเลจีนใต้อีกด้วย

ส่วนอิตาลี่ยังต้องรองรับผู้ลี้ภัยการสู้รบจากลิเบียเบียอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเป็นเรือลักลอบขนผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายที่จมลงในเขตทะเลเมดิเตอเรเนียน ที่อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 700 คน ซึ่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) และกองกำลังป้องกันชายฝั่งของอิตาลี เปิดเผยว่า เรือที่เกิดเหตุมีความยาว 20 เมตรแต่มีผู้ที่อยู่ในเรือมากกว่า 700 คน เมื่อเรือประสบเหตุจึงทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเรือกู้ภัยของอิตาลี และมอลต้า ร่วมด้วยเรือสินค้าโปรตุเกส ช่วยผู้ที่อยู่ในเรือไว้ได้เพียง 28 คน ซึ่งโฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์ ระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในทะเลเมดิ เตอร์เรเนียน

ด้านสหภาพยุโรปได้ประกาศเชิญ รัฐมนตรีต่างประเทศและกระทรวงกิจการภายในของชาติสมาชิกประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือเกี่ยวกับโศกนาฏกรรม พวกเขาเห็นว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ที่ประเทศซูดาน ประธานาธิบดีโอมาร์ ฮัสซัน อัล-บาชีร์ ผู้นำสาธารณรัฐซูดาน จะออกเดินทางในวันนี้เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือ นาม (Non-Aligned Movement : NAM) ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นการเดินทางออกนอกเขตทวีปแอฟริกา และภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นครั้งแรก ในรอบเกือบ 4 ปี เนื่องจากประธานาธิบดีซูดานถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ ออกหมายจับกุมในปี 2552 ตามข้อกล่าวหา ก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ สืบเนื่องจากกรณีพิพาทในภูมิภาคดาร์ฟูร์ ทางภาคตะวันตกของประเทศ

ส่วนกรณีที่ประเทศไนจีเรียพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคลึกลับ 18 ศพจากผู้ป่วย 23 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทางสาธารณสุขไนจีเรีย เผยผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการ ไม่พบเชื้อไวรัสอีโบลาหรือไวรัสชนิดอื่น แต่เชื้อนี้ทำลายระบบประสาทส่วนกลางของผู้ป่วยและทำให้เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง ด้านองค์การอนามัยโลก ระบุว่า สมมติฐานของโรค อาจเกิดจากยาฆ่าแมลงหรือยากำจัดวัชพืช และส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่เมืองโอเด-อีเรเลที่พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตแล้ว

...