ผู้คนทั่วเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผชิญกับอุณหภูมิที่อยู่ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปีนี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา บังกลาเทศมีอุณหภูมิสูงสุดในรอบเกือบ 60 ปี ขณะที่ในอินเดียมีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดอย่างน้อย 13 คน และอีก 2 คนในประเทศไทย
ในรายงานล่าสุดจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ เตือนว่า มีแนวโน้มที่ภาวะโลกร้อนจะมีความรุนแรงยิ่งขึ้นและทำให้เกิดอันตรายหลายอย่างพร้อมกัน
นายฟาฮัด ซาอีด หัวหน้านักวิจัยระดับภูมิภาคของสถาบันวิเคราะห์สภาพอากาศ (Climate Analytics) ในปากีสถานกล่าวว่า ปีนี้ประเทศไทย จีน และเอเชียใต้มีอากาศร้อนจัดกว่าปกติ เป็นแนวโน้มสภาพอากาศที่ชัดเจน และจะก่อให้เกิดความท้าทายด้านสาธารณสุขในอีกหลายปีข้างหน้า โดยเตือนว่าอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และผลกระทบต่อประชากรกลุ่มเปราะบาง และคนยากจนจะเลวร้ายมาก
กรมอุตุนิยมวิทยาของไทย แถลงเมื่อวันพุธ (19 เม.ย.66)ว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2566 จังหวัดตากที่อยู่ทางตะวันตก มีอุณหภูมิสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ 44.6 องศาเซลเซียส และเตือนว่าสภาพอากาศที่อบอ้าวจะดำเนินต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในช่วง 30 ถึง 40 องศาเซลเซียสมาตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยเมื่อต้นเดือนเมษายน ทางการไทยได้ออกประกาศเตือนด้านสุขภาพในหลายจังหวัด คาดว่าบางพื้นที่อาจมีอุณหภูมิสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส
เมื่อวันจันทร์ (17 เม.ย.) เมืองคาเลวา ในเขตสะกาย มีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส เป็นสถิติใหม่ของเดือนเมษายน
หลวงพระบาง สปป.ลาวมีอุณหภูมิสูงถึง 42.7 องศาเซลเซียส ในวันอังคาร (18 เม.ย.) ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเดือนเมษายน
โดยทั่วไปแล้ว เดือนเมษายนและพฤษภาคมเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปีสำหรับเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากอุณหภูมิจะสูงขึ้นก่อนเข้าสู่ฤดูฝน แต่สภาพอากาศที่ร้อนขึ้นในประเทศไทย มีสาเหตุส่วนหนึ่งคือปัญหาไฟป่า และฝุ่นควันซึ่งทำให้ระดับมลพิษพุ่งสูงขึ้น จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ในภาคเหนือติดอันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกเป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน
ส่วนที่ประเทศจีน สถานีตรวจอากาศมากกว่า 100 แห่งใน 12 มณฑล รายงานว่าสถิติอุณหภูมิของเดือนเมษายนอยู่ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ความร้อนยังแพร่กระจายไปทั่วเอเชียใต้ ทั้งปากีสถาน อินเดีย เนปาล และบังกลาเทศมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสเป็นเวลาหลายวัน โดยที่อินเดีย สถานีตรวจอากาศ 48 แห่งบันทึกอุณหภูมิสูงกว่า 42 องศาเซลเซียส ในวันอังคาร สูงสุดอยู่ที่ 44.2 องศาเซลเซียส ที่รัฐโอริสสาทางตะวันออก กระทรวงแรงงานออกคำแนะนำไปยังทุกรัฐและทุกภูมิภาค ให้ดูแลความปลอดภัยของคนงาน โดยเฉพาะคนงานกลางแจ้งและคนงานเหมือง ที่ต้องทำงานท่ามกลางความร้อนจัด โดยแนะนำให้จัดหาน้ำดื่มให้เพียงพอ การประคบน้ำแข็งในกรณีฉุกเฉิน และการหยุดพักบ่อยๆ
....
#อากาศร้อน
#สภาวะโลกร้อน
#เอเชีย