ปิดโรงพยาบาลชั่วคราวกว่า 50 แห่งในกรุงคาร์ทูม ซูดาน จากเหตุปะทะกันต่อเนื่อง

          เหตุแย่งชิงอำนาจกันในซูดานบานปลายระหว่าง กองทัพบก ภายใต้การควบคุมของพลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-เบอร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดาน และประธานสภาอธิปไตย (Sovereign Council of Sudan)ที่ดูแลเรื่องการถ่ายโอนอำนาจปกครองของซูดาน หลังการทำรัฐประหารในปี 2564 กับ ทหารกองหนุนของกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF)ภายใต้การควบคุมของพลเอกโมฮาเหม็ด ฮัมดาน ดากาโล ในฐานะรองประธานสภาอธิปไตย มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆนับแต่เริ่มเกิดเหตุปะทะกันเมื่อเช้าวันเสาร์ที่แล้ว ขณะที่องค์การอนามัยโลก(WHO)ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 270 ราย บาดเจ็บกว่า 2,600 คน

          บีบีซีรายงานอ้างนายอับดัลลา ฮุสเซน ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการประจำซูดานขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน(MSF) องค์กรการกุศลด้านการแพทย์ของฝรั่งเศสว่า จากข้อมูลล่าสุด MSF พบว่าร้อยละ 50 ของโรงพยาบาลรวม 59 แห่งในกรุงคาร์ทูม ปิดทำการชั่วคราวมาแล้ว 72 ชั่วโมง(หรือ 3 วัน)เนื่องจากผู้บริหารโรงพยาบาลรู้สึกกังวลว่าบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอาจจะได้รับอันตรายจากเหตุปะทะของทหาร 2 ฝ่าย ขณะพวกเขาเดินทางจากบ้านไปทำงานที่โรงพยาบาล ทั้งๆที่มีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น ซึ่งคนไข้หลายคนต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ มีการยิงปืนใหญ่ หรือเหตุระเบิดในบริเวณโรงพยาบาล ทำให้ผู้บริหารโรงพยาบาลสั่งปิดโรงพยาบาลโดยปริยาย เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรและคนไข้ของโรงพยาบาล

          ชาวบ้านส่วนใหญ่หลบอยู่ในบ้านเรือน หวั่นเกรงอันตรายจากการปะทะกัน ขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศเช่น สหประชาชาติ สหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรปต่างแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในซูดาน ขอให้ทั้งสองฝ่ายพักรบชั่วคราว เพื่อให้องค์กรการกุศลสามารถเข้าไปแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน หรือประสานเรื่องการลำเลียงชาวต่างชาติ รวมถึงคณะทูตออกจากซูดาน

          นายฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นแถลงในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นเตรียมส่งเครื่องบินลำเลียงของกองทัพไปช่วยลำเลียงชาวญี่ปุ่น 60 คนออกจากซูดาน รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำซูดาน เบื้องต้น ไม่มีรายงานเรื่องชาวญี่ปุ่นในซูดานได้รับอันตรายจากเหตุปะทะกัน แต่มีรายงานว่าอาหารและน้ำดื่มเริ่มขาดแคลน ไฟฟ้าดับบ่อยๆและสถานการณ์ด้านความมั่นคงเริ่มแย่ลงอย่างต่อเนื่อง

          ด้านสหรัฐฯยังไม่มีแผนอพยพชาวอเมริกันในซูดาน แต่แนะนำให้ชาวอเมริกันอยู่แต่ในอาคาร บ้านเรือน หรือที่พัก เพื่อความปลอดภัย ส่วนประเทศอื่นๆเช่น ประเทศจีนแนะนำให้ชาวจีนในซูดานเพิ่มการระมัดระวังตัว ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์กับสถานทูตจีนประจำกรุงคาร์ทูม

          ขณะที่สถานทูตอินเดียแนะนำให้ชาวอินเดียอยู่ในอาคารที่พักในกรุงคาร์ทูม แนะนำให้ใช้สอยสิ่งของอุปโภคบริโภคต่างๆอย่างประหยัดเนื่องจากมีการปล้นสะดมร้านค้า อาจจะทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร

          สำหรับผลกระทบจากเหตุรุนแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เช่น ขบวนรถทูตสหรัฐฯถูกยิงโดยพลาดจากเหตุปะทะของกองกำลัง 2 ฝ่ายของซูดาน เอกอัครราชทูตของกลุ่มอียูถูกชายฉกรรจ์ไม่ทราบฝ่ายบุกเข้าทำร้ายคาบ้านพักในกรุงคาร์ทูม และคนงานจากโครงการอาหารโลก(WFP)ในสังกัดของสหประชาชาติเสียชีวิต 3 รายจากเหตุรุนแรงในซูดาน

 #เหตุรุนแรงในซูดาน

#ปิดโรงพยาบาลในกรุงคาร์ทูม