ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้าง นางอาเรียนนา โพเดสตา โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป(EC)ว่า คณะกรรมาธิการยุโรปคัดค้านโปแลนด์และฮังการี หลังมีคำสั่งเมื่อวานนี้ ห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร เช่น ข้าวเปลือกและสินค้าอื่นๆจากยูเครน โดยบอกว่า เป็นการออกคำสั่งโดยพลการ และเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ขณะที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ระบุในแถลงการณ์ว่า มาตรการนี้มุ่งเพื่อปกป้องตลาดสินค้าเกษตรของโปแลนด์ไม่ให้ขาดเสถียรภาพ
ด้านนายอิสวาน น็อจย์ (István Nagy) รัฐมนตรีเกษตรของฮังการี โพสต์ทางเฟซบุ๊กว่า ฮังการีจะใช้นโยบายที่คล้ายกันกับโปแลนด์คือ ห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร เช่น ข้าวเปลือก น้ำมันพืช และสินค้าเกษตรอื่นๆจากยูเครน เพื่อรักษาประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับชาวฮังการี ยอมรับว่าดำเนินการเรื่องนี้โดยไม่ได้หารือกับคณะกรรมาธิการยุโรปก่อน
ในช่วงแรกๆที่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว รัสเซียได้ปิดล้อมท่าเรือและเส้นทางแล่นเรือของยูเครน ทำให้เรือสินค้ายูเครนไม่สามารถขนส่งสินค้าไปสู่ตลาดโลก รวมถึงการส่งข้าวเปลือกไปยังแอฟริกาและตะวันออกกลาง ต่อมากลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)หวั่นเกรงเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารทั่วโลก กลุ่มอียูได้ยกเลิกอากรสำหรับการนำเข้าข้าวเปลือกจากยูเครน เพื่อช่วยให้สินค้าเกษตรจากยูเครนเข้าสู่ตลาดโลกสะดวกยิ่งขึ้น
นับแต่นั้นมา สินค้าเกษตรราคาถูก เช่น ข้าว ถูกส่งเข้าไปยังโปแลนด์มากขึ้น ทำให้ราคาผลผลิตของโปแลนด์ประสบปัญหา ราคาตกต่ำ จนขาดทุน เกษตรกรชาวโปแลนด์ จึงได้ยื่นประท้วงมายังEC ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับคณะรัฐมนตรีของกลุ่มอียู เพื่อเข้ามาช่วยเหลือด้วยการแทรกแซงตลาด แต่ความไม่พอใจยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อEC ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการยกเว้นการเก็บภาษีอากรสำหรับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากยูเครนต่อไปอีก 1 ปีจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า จากเดิมที่มาตรการนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 5 มิถุนายนปีนี้
#อียู
#คัดค้านสมาชิกอียูห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรยูเครน