น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตรวจพบการโพสต์จำหน่ายยาอีที่บดบรรจุในซองผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเกลือแร่,ซองคอลลาเจน และซองกาแฟ ในโซเชียลมีเดีย โดยเป็นบัญชีหรือแอคเคาท์ผู้ใช้ติ๊กต๊อกในประเทศเพื่อนบ้าน มีการโฆษณาแจ้งเบอร์โทรศัพท์ WhatsApp เป็นช่องทางติดต่อ ซึ่งแม้ในโพสต์จะไม่แจ้งว่ามีการส่งเข้าประเทศไทย แต่พบว่ามีสมาชิกผู้ใช้ติ๊กต๊อกจากประเทศไทยเข้าไปติดต่อซื้อด้วย
ป.ป.ส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และย้ำเตือนประชาชนอย่าเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่าสั่ง อย่าโพสต์ อย่าแชร์โฆษณายาเสพติด เพราะหากตรวจสอบพบการโพสต์ที่เข้าข่ายเป็นโฆษณายาเสพติด จะมีโทษหนัก จำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการขายและกระทำใดใดที่แม้จะทำในประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากเป็นกรณีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติดของไทย มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับและยึดทรัพย์สิน
ขณะที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) มีคำเตือนเกี่ยวกับความร้ายแรงของยาอี ที่ลักลอบบรรจุลงในแพ็กเกจของผลิตภัณฑ์ต่างๆ และวางขายในช่องทางโซเชียลมีเดียในขณะนี้ว่า สามารถทำลายระบบประสาท การหลั่งสารต่างๆ ตามธรรมชาติของร่างกายผิดปกติ
ผู้ที่เสพติดต่อกันจะเกิดอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ ซึมเศร้า อาจเป็นโรคจิตประเภทซึมเศร้าและมีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติ และยังทำให้การนอนหลับผิดปกติ หากเป็นตัวยาที่มีส่วนผสมยาเสพติดหลายชนิด มีความเข้มข้น หรือเสพพร้อมกับดื่มแอลกอฮอล์หรือเสพยาชนิดอื่นร่วมด้วย อาจทำให้เกิดอาการช็อกและเสียชีวิตได้
จึงขอแนะนำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง สอดส่องบุตรหลานที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หากพบว่า มีพฤติกรรมเสี่ยงและพบสิ่งต้องสงสัย ควรพูดคุยด้วยเหตุผลไม่ใช้ความรุนแรง บอกกล่าวถึงผลเสียต่อสุขภาพรวมถึงอันตรายที่จะตามมา และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง หรือ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th
#ยาเสพติดรูปแบบใหม่