สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่นครองแชมป์ก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด

ผลการศึกษาจากคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยประจำองค์การสหประชาชาติพบว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่าภายในบ้านจำพวกไมโครเวฟ  เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า กลายเป็นขยะกองโต คิดเป็นร้อยละ 60 ของปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในปี 2557 จำนวนรวม 41 ล้าน 8 แสนตัน ซึ่งจากปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้สามารถนำกลับไปใช้ได้ใหม่หรือแปรรูปเพียงร้อยละ 16 เท่านั้น ส่วนขยะจำพวกโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเครื่องปรินเตอร์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7

ผลการศึกษาระบุด้วยว่าสหรัฐฯ เป็นชาติที่ก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดในปี 2557 ด้วยปริมาณขยะจำนวน 7,027 กิโลตัน รองลงมาคือจีน 6,032 กิโลตัน และอันดับสาม ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 2,200 กิโลตัน ขณะที่กลุ่มประเทศยุโรปติดอันดับประเทศที่มีประชากรก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นรายบุคคลมากที่สุด กล่าวคือชาวนอร์เวย์มีสถิติการก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดเฉลี่ยคนละ 28.4 กิโลกรัม เปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในแอฟริกาที่ประชากรมีสถิติการก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่ำที่สุดเพียงคนละ 1.7 กิโลกรัม

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ปริมาณการก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์กำลังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเติบโตของปริมาณการครอบครองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศ และปัจจัยด้านอายุการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ที่สั้นลง เมื่อวิเคราะห์ส่วนประกอบภายในขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกปล่อยทิ้งเหล่านี้พบว่า จากปริมาณขยะ 41 ล้าน 8  แสนตัน มีเหล็กเป็นส่วนประกอบจำนวน 16,000 กิโลตัน ทองแดง 1,900 กิโลตัน และทอง 300 ตัน รวมทั้งโลหะอื่น เช่น แร่แพลเลเดียม คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 52,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,560 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขยะเหล่านี้ก็ยังเป็นมีส่วนประกอบที่เป็นพิษ โดยเฉพาะสารตะกั่ว ซึ่งจำเป็นต้องจัดการด้วยความระมัดระวัง **13.23F174**