นักลงทุน รอดู GDP ไตรมาส 1 ของจีน หนุนราคาน้ำมันพุ่งสูง เสริมปัจจัย OPEC+ เตรียมลดการผลิต

17 เมษายน 2566, 12:21น.


          นางตินา เต็ง นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ (CMC Markets)และนายโทนี ไซคามอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทไอจี(IG) เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ราคาน้ำมันขยับขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขายวันนี้ โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก)และพันธมิตร 23 ประเทศ รวมทั้งรัสเซีย ซึ่งเรียกว่า กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+)ประกาศเมื่อต้นเดือนนี้เรื่องการลดกำลังการผลิตราว 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มจากเดือนพฤษภาคมนี้



           นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูตัวเลขเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะตัวเลขจีดีพีช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะมีการประกาศในสัปดาห์นี้ เพื่อดูว่า มีสัญญาณบ่งชี้การฟื้นตัวด้านอุปสงค์ด้านน้ำมันของจีน ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก หรือไม่ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกของจีนอาจจะมีผลเชิงบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงราคาน้ำมัน



          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษ ขยับขึ้น 17 เซนต์ อยู่ที่ 86.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส สหรัฐฯ ขยับขึ้น 14 เซนต์ อยู่ที่ 82.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



          ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบตามสัญญาซื้อขายของทั้งสองตลาดขยับขึ้นมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 หลังทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)คาดการณ์เรื่องอุปสงค์น้ำมันดิบจะเพิ่มเป็นสถิติใหม่ในปีนี้คือ 101.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีที่แล้ว นอกจากนี้ IAEA เตือนในรายงาน  Oil Market Report ประจำเดือนเมษายน 2566 ว่า การที่กลุ่ม OPEC+ ลดกำลังการผลิต อาจจะซ้ำเติมภาวะตึงตัวของปริมาณน้ำมันดิบที่จะเข้าสู่ตลาดโลกในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ อีกทั้งอาจจะกระทบต่อผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก



          ขณะเดียวกัน โครงการส่งน้ำมันดิบทางท่อส่งจากเขตปกครองเคอร์ดิสถาน ทางภาคเหนือของอิรักไปยังท่าเรือเมืองเจย์ฮัน ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของตุรกี ชะงักมาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว หลังอนุญาโตตุลาการชุดหนึ่ง มีคำชี้ขาดให้รัฐบาลตุรกีจ่ายเงินชดเชยให้กับรัฐบาลอิรัก ฐานส่งออกน้ำมันดิบจากโครงการนี้โดยไม่ได้ขออนุญาตจากอิรักก่อน



 



#น้ำมันดิบ



#GDPของจีน

ข่าวทั้งหมด

X