นางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เตือนว่าการปฏิเสธโลกาภิวัตน์สำหรับพันธมิตรทางการค้าที่เป็นคู่แข่งจะจบลงอย่างเลวร้าย และการปล่อยให้เศรษฐกิจโลกแบ่งออกเป็นกลุ่มการค้าตามการแบ่งฃั้วการเมืองโลก อาจทำให้เกิดสงครามเย็นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นางจอร์เจียวา ยอมรับว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและความขัดแย้งในยูเครน แสดงให้เห็นถึงช่องว่างในกระแสโลกาภิวัตน์ และย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการควบคุมห่วงโซ่การผลิตที่สำคัญ ซึ่งเธอมีความเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับห่วงโซ่การผลิต โดยที่ไม่ผลักดันโลกเข้าสู่สงครามเย็นครั้งที่สองได้ด้วยการใช้หลักเหตุผล
เมื่อวันพุธ (12 เม.ย.66) กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี7 ออกแถลงการณ์โดยย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่การผลิต และสัญญาว่าจะทำงานร่วมกับประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งเป็นการแสดงถึงการสร้างห่วงโซ่การผลิตใหม่ที่ไม่พึ่งพาจีน ขณะที่เอกสารการทำงานของไอเอ็มเอฟ ที่มีการนำเข้าหารือกันในที่ประชุม ระบุว่า การปล่อยให้เศรษฐกิจโลกแบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ โดยอ้างอิงการเมืองโลก ที่แบ่งออกเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่นำโดยสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตก กับอีกฝ่ายที่ประกอบไปด้วยจีน รัสเซีย และอื่น ๆ จะสร้างความเสียหายต่อประเทศเล็กๆ ซึ่งเธอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ พยายามหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
นางจอร์เจียว่า กล่าวด้วยว่า เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่รู้ว่าอะไรคือผลที่ตามมาของสงครามเย็น นั่นคือการสูญเสียความสามารถประชาคมโลก โดยนางจอร์เจียวา เกิดและเติบโตในบัลแกเรีย อดีตรัฐบริวารของสหภาพโซเวียต เธอเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีประสบการณ์ทำงานในองค์กรระดับโลกหลายแห่ง เคยดำรงตำแหน่งประธานธนาคารโลก และมีบทบาทสำคัญในหลายคณะทำงานในคณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งที่ผ่านมาเธอมักแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มการค้าที่ผูกพันกับการเมือง ว่าทำให้มีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่สงครามเย็นครั้งที่ 2 ได้
...
#ไอเอ็มเอฟ
#กลุ่มการค้า
#การเมืองโลก
#สงครามเย็น