รัฐมนตรีคลัง G20 ประชุมร่วมกับ IMF หารือแนวทางช่วยประเทศกำลังพัฒนา

          รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 19 ประเทศ รวมกับสหภาพยุโรป หรือ จี20 ร่วมการประชุมที่สำนักงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ ไอเอ็มเอฟ ที่กรุงวอชิงตันดีซี เป็นเวลา 2 วัน (12-13 เม.ย.66) เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่เศรษฐกิจโลกเผชิญ โดยเฉพาะในประเด็นการชะลอตัวของการเติบโตทั่วโลก ความเปราะบางของภาคการธนาคาร และการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปพหุภาคีเพิ่มมากขึ้น

          อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จำนวนมากมีความเห็นว่า ความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครนอาจทำให้ยากต่อการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกัน และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น เพื่อเสริมความเชื่อมั่นในระบบการเงินโลก

          ในเดือนมกราคม (2566) ธนาคารโลกปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 จากระดับร้อยละ 3 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.7 และในสัปดาห์ที่แล้วนาง คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ยังคาดการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกจะดำเนินต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อทำให้เกิดความปั่นป่วนทางการเงินทั่วทั้งระบบธนาคารของโลก

          ในช่วง 13 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง 4.5 จุด ทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามไปด้วย ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น คือการลดมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ และเพิ่มโอกาสในการผิดนัดชำระสำหรับตราสารที่มีอัตราผันแปร ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ธนาคารหลายแห่งประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการล้มละลายของธนาคารซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley Bank) และธนาคารซิกเนเจอร์ (Signature Bank)

          ทั้งกระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติย้ายเงินทุนไปยังสินทรัพย์ทางการเงินของสหรัฐฯ และออกห่างจากการลงทุนในประเทศกำลังพัฒนาที่มีความเสี่ยง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของพวกเขา โดยเฉพาะนำไปสู่ต้นทุนการรีไฟแนนซ์ที่สูงขึ้นและการอ่อนค่าของสกุลเงินอย่างกว้างขวางเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นอกเหนือจากค่านำเข้าที่สูงขึ้นแล้ว ค่าเงินที่ลดลงทำให้การชำระหนี้ต่างประเทศที่มีอยู่แพงขึ้น

          จี20 ซึ่งครองส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจร้อยละ 85 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือจีดีพีทั่วโลก และมีประชากร 2 ใน 3 ของประชากรโลก จึงเรียกร้องให้เพิ่มการทำงานเพื่อบรรเทาหนี้ให้กับประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงการควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศ โดยในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว (2565) ธนาคารโลกประเมินว่าประเทศที่มีรายได้น้อยจะเผชิญกับภาระหนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 ต่อปี แตะระดับ 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณร้อยละ 66 ของหนี้สิน มีจีนเป็นเจ้าหนี้

....

#จี20

#ไอเอ็มเอฟ

#เศรษฐกิจโลก