เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางแม่นาง ควบคุมตัวนายอนุพงษ์ เรืองสวัสดิ์ อายุ 27 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายอนุพงษ์ ขับแท๊กซี่ สีชมพู ทษ-4963 กทม. เป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเฉี่ยวชนด.ต.จักรี พลาสินธ์ ตำรวจจราจร สภ.บางใหญ่ อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บ และเอาปืนของด.ต.จักรี ไปยิงสองสามีภรรยา คือ นายสมชาย แท่นจันทา อายุ 52 ปี และนางสังวาล แท่นจันทา อายุ 50 ปี ทั้ง 2 คน เป็นเจ้าของห้องพักจนเสียชีวิตทั้งคู่ โดยมีพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช. ภ.1 เดินทางไปทำแผนด้วย และก่อนที่จะมาทำแผนได้สอบปากคำผู้ต้องหาด้วย การทำแผนมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และหน่วยคอมมาโด ควบคุมตัวอย่างแน่นหนา จุดแรกที่เจ้าหน้าที่พาไปทำแผนคือ ซ.วัดพระเงิน จุดที่ผู้ต้องหา ขับรถพุ่งชนและเอาปืนของด.ต.จักรี ที่ยืนอำนวยความสะดวกจราจรอยู่ จากนั้นได้เดินทางไปทำแผนจุดที่สอง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหานำปืนกลับไปยิงสองสามีภรรรยา คือ บริเวณห้องเช่า 3 ชั้น ระหว่างการทำแผนมีประชาชนรุมตะโกนด่าผู้ต้องหาด้วย เจ้าหน้าที่จึงต้องมีการคุ้มกันผู้ต้องหาอย่างแน่นหนา ให้ผู้ต้องหาชี้จุดที่ยิง โดยผู้ต้องหาเดินเข้าไปเมื่อเจอผู้เสียชีวิตสองคนได้ยิงทันทีและยิงซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตจริง
หลังจากยิงผู้เสียชีวิตทั้งสองคนแล้ว ประมาณ 18.00 น.ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปด้วยการเดินมาขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่ใกล้ๆ จุดที่ก่อเหตุ ประมาณ 200 เมตร แต่รถจักรยานยนต์ไม่ไป
จึงโบกรถแท็กซี่ เพื่อหลบหนีไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนจุดสุดท้ายเป็นอู่รถที่ผู้ต้องหามาเช่ารถที่นี่ทุกวัน คือ หมู่บ้านพระปิ่นสาม บ้านเลขที่ 68 จ.นนทบุรี และเมื่อทำแผนเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่สภ.บางแม่นาง และส่งฝากขังในวันจันทร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการทำแผน ผู้ต้องหามีสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่สะทกสะท้าน และก่อนที่จะควบคุมตัวมาทำแผน ได้คุมตัวไปค้นหาปืนที่รับสารภาพว่า ได้นำไปที่แถวปั๊มน้ำมัน บริเวณมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต เมื่อเจอปืนแล้วจึงคุมตัวมาทำแผน
ก่อนหน้านี้ ร.ต.ท.ประเทือง พิทักษ์ ร้อยเวรสน.ตลิ่งชัน สน.ที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว เพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เนื่องจากแค้นที่ถูกเจ้าของหอพัก ดุด่าหลายครั้ง และเข้าค้นห้องพักหลายครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และเนื่องจากไม่มีเงินซื้อปืนจึงไปชิงปืนของเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่มีการพูดถึงประเด็นความผิดปกติทางระบบประสาทของผู้ต้องหา
ธีรวัฒน์