ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯว่า เอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯที่หลุดออกมาและถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ทุกคนทราบถึงวิธีการของสหรัฐฯในการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองทั้งจากบรรดาชาติพันธมิตรและคู่ปรปักษ์ของสหรัฐฯ สร้างความไม่สบายใจกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐฯ หวั่นเกรงว่า การตีแผ่เรื่องนี้ทางสื่อออนไลน์อาจจะกระทบการทำงานของแหล่งข่าว ซึ่งอาจจะพลอยเดือดร้อนด้วย อีกทั้งจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับพันธมิตรสำคัญๆของสหรัฐฯ
แหล่งข่าวระบุว่า เอกสารบางชิ้น เป็นของจริง แสดงให้เห็นการที่สหรัฐฯแอบดักฟังโทรศัพท์ของบรรดาพันธมิตรหลักๆเช่น เกาหลีใต้ อิสราเอลและยูเครน ขณะที่ นักวิเคราะห์บางคน กล่าวว่า การที่สหรัฐฯเจาะลึกข้อมูลข่าวกรองจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียและกลุ่มแวกเนอร์ บริษัททหารรับจ้างเอกชนของรัสเซีย ส่วนใหญ่ได้รับข้อมูลจากการดักฟังสัญญาณสื่อสารทางโทรศัพท์และการสอบถามเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวในท้องถิ่น ซึ่งบัดนี้อาจจะหยุดการติดต่อสื่อสารกับแหล่งข่าวเนื่องจากอาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา
นักวิเคราะห์บางคนระบุว่าการตีแผ่ข่าวกรองเรื่องนี้ เผยให้เห็นจุดอ่อนในด้านอาวุธ การป้องกันทางอากาศ ขนาดของกำลังพลและความพร้อมของกองทัพยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย ขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนเร่งปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อขับไล่รัสเซียจากดินแดน ขณะเดียวกัน ทั้งสหรัฐฯและยูเครนเริ่มพัฒนาความวางใจมากขึ้นในเรื่องการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองระหว่างกัน ด้านแหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ปรับเปลี่ยนแผนรบกับรัสเซียในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อเร็วๆนี้เป็นผลจากเอกสารข่าวกรองที่รั่วไหลดังกล่าวเช่นกัน
ขณะเดียวกัน การรั่วไหลของข่าวกรองดังกล่าวส่งผลให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯคุมเข้มเรื่องการจัดเก็บเอกสารลับ ซึ่งโดยปกติมีการแบ่งปันให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงหลายร้อยคนจากกระทรวงทบวงกรมต่างๆของสหรัฐฯ
#สหรัฐฯ
#ข่าวกรองรั่วไหล