ชาวอิสราเอลนับแสนคนเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงในกรุงเทลอาวีฟ เพื่อคัดค้านแผนการของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าจะมีคำเตือนว่าจะไม่มีความปลอดภัย เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งจากเหตุโจมตีภายในประเทศ และการที่อิสราเอลมีปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮามาสในพื้นที่ฉนวนกาซาและเลบานอน
ตั้งแต่ในวันศุกร์ (7 เม.ย.66) มีเหตุคนร้ายยิงสตรีอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 1 คน ในเขตนิคมชาวยิวในเวสต์แบงค์ นอกจากนี้ยังมีเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนผู้คนในกรุงเทลอาวีฟ ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีเสียชีวิต 1 คนบาดเจ็บอีก 5 คน
และเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ทหารอิสราเอลยิงชายชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตในเขตเวสต์แบงก์ และมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายในซีเรีย ยิงจรวด 6 ลูกตกในอิสราเอล แต่ไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูสั่งระดมกำลังทหารกองหนุน และให้กองทัพเตรียมความพร้อมเพื่อจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ทั้งขอให้ประชาชนไม่เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์เพราะเกรงว่าจะมีความไม่ปลอดภัย แต่เมื่อถึงคืนวันเสาร์ มีชาวอิสราเอลจำนวนมากเข้าร่วมการชุมนุมประท้วง ซึ่งสื่อบางแห่งรายงานว่า มีจำนวนประมาณ 150,000 คน ผู้ประท้วงหลายคนมีความเห็นว่า พวกเขาต้องการกอบกู้ประชาธิปไตยในอิสราเอล เนื่องจากแนวทางปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่นายกรัฐมนตรีเสนอ คือการทำให้รัฐบาลมีอำนาจเหนือฝ่ายตุลาการ ทั้งการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกา และการลบล้างคำตัดสินของศาล
ในกลุ่มผู้ประท้วงครั้งล่าสุดนี้ มีทั้งทหารกองหนุน ผู้นำธุรกิจ กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และนักวิชาการชั้นนำ ร่วมด้วยนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ให้การสนับสนุนกลุ่มแนวร่วมชาตินิยมของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์การเมืองมีความเห็นว่า นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูกำลังสูญเสียการควบคุมรัฐบาล และมีแนวโน้มที่จะสูญเสียครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งต่อไปด้วย
..
#ประท้วงแผนปฏิรูปตุลาการ
#อิสราเอล