เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นเรียกร้องให้นานาชาติไม่ว่าจ้างแรงงานชาวเกาหลีเหนือ และควบคุมอาชญากรรมทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ เพื่อสกัดกั้นการนำรายได้ไปเป็นทุนในโครงการนิวเคลียร์
การประชุมของนักการทูตจากทั้ง 3 ประเทศที่กรุงโซลในประเด็นนิวเคลียร์มีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยมีวาระสำคัญคือการรับมือกับคลังแสงนิวเคลียร์ที่กำลังเพิ่มขึ้น และการทดสอบอาวุธอย่างต่อเนื่องที่แสดงให้เห็นว่ามีความตั้งใจที่จะพัฒนาขีปนาวุธขั้นสูงเพื่อโจมตีสหรัฐฯ และพันธมิตร
แม้ว่าจะถูกคว่ำบาตร มีปัญหาภัยแล้ง และโรคระบาดรุนแรงแต่เกาหลีเหนือยังคงอุทิศทรัพยากรที่หายากให้กับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ โดยมีเส้นทางการเงินที่สำคัญคือจากแรงงานที่ไปทำงานในต่างประเทศ แม้สหประชาชาติ เคยมีมติให้ประเทศที่รับแรงงานไว้ ส่งกลับแรงงานทั้งหมดภายในสิ้นปี 2562 แต่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า หลายประเทศยังมีการใช้แรงงานเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ร่วมยังระบุถึง โครงการไซเบอร์ที่เป็นอันตรายซึ่งกำหนดเป้าหมายประเทศและบุคคลทั่วโลก เป็นการคุกคามความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมด ซึ่งหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าในเดือนธันวาคม (2565) แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือได้ขโมยเงินดิจิทัลและทรัพย์สินเสมือนอื่น ๆ ประมาณ 1 ล้าน 5 แสนล้านวอน (1,200 ล้านดอลลาร์) ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งชี้ว่าความสามารถของเกาหลีเหนือในการขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นถือว่าดีที่สุดในโลก เนื่องจากเกาหลีเหนือให้ความสำคัญกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ตั้งแต่ที่องค์การสหประชาชาติ การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเข้มงวดขึ้นในปี 2560 เพื่อตอบสนองต่อการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธก่อนหน้านี้
…
#นิวเคลียร์เกาหลีเหนือ