นาย เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า การเจรจาสันติภาพยูเครนจะต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้าง "ระเบียบโลกใหม่" โดยคำนึงถึงผลประโยชน์และความกังวลของรัสเซีย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขยายสมาชิกของกลุ่มนาโตและบทบาทของสหรัฐฯ ในเวทีโลก คำกล่าวของนายลาฟรอฟ มีขึ้นหลังการพบหารือกับนาย เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีการต่างประเทศตุรกีที่กรุงอังการา ซึ่งเขาย้ำว่า รัสเซียปฏิเสธระเบียบโลกแบบขั้วเดียวที่นำโดยมหาอำนาจเพียงแห่งเดียว
ขณะที่นายคาวูโซกลู เรียกร้องให้รัสเซียและยูเครนเข้าสู่การเจรจาสันติภาพอีกครั้ง เพราะมีความเป็นไปได้ที่การสู้รบจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีกในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ และพยายามเจรจาขยายเวลาการส่งออกธัญพืชยูเครนในทะเลดำ ซึ่งตุรกีและสหประชาชาติเป็นเจ้าภาพร่วมกันในการเจรจา 4 ฝ่ายกับรัสเซียและยูเครน ซึ่งทางฝ่ายรัสเซียขู่ว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลง เว้นแต่จะมีการขจัดอุปสรรคในการส่งออกสินค้าเกษตรของรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่มีมาตั้งแต่แรก
ข้อตกลงธัญพืชยูเครนมีการลงนามครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 และมีการต่ออายุอีกสองครั้ง ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชได้มากกว่า 27 ล้านตัน ซึ่งตุรกีพยายามให้ขยายเวลาข้อตกลงเป็นครั้งที่ 3 ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่นายลาฟรอฟกล่าวว่า ประเทศตะวันตกไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง เพราะขณะที่ธัญพืชและสินค้าอื่น ๆ จากท่าเรือของยูเครนสามารถส่งออกได้แล้ว แต่สินค้าของรัสเซียทั้งอาหารและปุ๋ยยังมีอุปสรรคจากข้อจำกัดที่ประเทศตะวันตกกำหนดไว้ ทั้งในเรื่องการชำระเงิน โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมประกันภัย รัสเซียจึงเรียกร้องให้ชาติตะวันตกขจัดอุปสรรคในการส่งออกสินค้าเกษตร
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรในโรมาเนีย โปแลนด์ และบัลแกเรีย เข้าร่วมการประท้วงการนำเข้าสินค้าธัญพืชยูเครนที่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า (2567) ทำให้มีสินค้าล้นตลาด ส่งผลกระทบต่อราคาและยอดขายสินค้าเกษตรในท้องถิ่น จึงเรียกร้องให้สหภาพยุโรปเข้ามาแก้ปัญหา
...
#สันติภาพยูเครน
#รัสเซีย