วันนี้ (7 เม.ย.66) เป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยแบบบัญชีรายชื่อ ปิดรับสมัครไปเมื่อเวลา 16.00 น. ส่วนแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ปิดรับสมัครไปเมื่อเวลา 16.30 น.
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของการสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3-7 เม.ย.66 มีพรรคการเมือง 70 พรรคที่ส่งผู้สมัคร จำนวนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตทั้งหมด 4,781 คน โดยพื้นที่ กทม.มีผู้สมัครมากที่สุด 498 คน ส่วนการสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 4-7 เม.ย.66 มีพรรคการเมืองที่ยื่นสมัครทั้งหมด 67 พรรค จำนวนผู้สมัคร 1,899 คน มีรายชื่อผู้ที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค จำนวน 63 คน จาก 43 พรรค
ขั้นตอนจากนี้ จะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร โดยผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะตรวจสอบโดย กกต. ส่วนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต จะตรวจสอบโดย กกต.เขต และจะใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติและจะประกาศรายชื่อว่าได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ภายใน 7 วัน หรือภายในวันที่ 14 เม.ย.66 นี้
สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีการประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ ภายใน 7 วัน ซึ่งศาลฎีกาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 3 วัน
ส่วนกรณีผู้ที่ได้รับการประกาศให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว แต่มีผู้สมัครรายอื่นหรือบุคคลใดเห็นว่า ขาดคุณสมบัติ ให้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้ถูกร้องได้ ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ประกาศ คือ ภายในวันที่ 21 เม.ย.66 โดยผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อยื่นคำร้องที่ กกต.ส่วนผู้สมัครแบบแบ่งเขต ยื่นคำร้องที่ กกต.เขต โดย กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน
ด้านการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายหาเสียง แจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท จะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต. ระบุว่า ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองสามารถหาเสียงเกี่ยวกับนโยบายที่ใช้งบประมาณแผ่นดินดำเนินการ และมีอำนาจดำเนินการ หากได้เป็นรัฐบาล การหาเสียงในลักษณะนี้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าสัญญาว่า จะให้โดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน จะถือว่าผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ การหาเสียงด้วยนโยบายประชานิยมนั้น ตามกฎหมายเลือกตั้ง ระบุไว้ชัดเจนว่า พรรคการเมืองที่หาเสียง จะต้องแจ้งรายละเอียดของนโยบายให้ กกต.รับทราบด้วย ได้แก่ ชื่อนโยบาย งบประมาณที่ต้องใช้ในนโยบายดังกล่าว ที่มาของเงินงบประมาณ ความคุ้มค่าและประโยชน์จากนโยบาย ผลกระทบและความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบาย และต้องเป็นนโยบายที่พรรคให้การรับรอง รวมทั้งต้องแจ้งรายละเอียดเหล่านี้ให้ประชาชนทราบระหว่างหาเสียงด้วย เพื่อให้ประชาชนมีข้อมูลในการพิจารณาลงคะแนนเสียง
เลขาธิการ กกต. ยังย้ำเตือนพรรคการเมืองและผู้สมัคร ส.ส ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เกี่ยวกับการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถทำกิจกรรมตามประเพณีได้ เช่น การรดน้ำดำหัว ให้พร ให้พวงมาลัย แต่ห้ามให้เงิน ให้ทรัพย์สิน ห้ามจัดงานรื่นเริง งานเลี้ยง มหรสพ หรือรถแห่ที่มีวงดนตรี ห้ามสัญญาว่าจะให้แก่บุคคล ชุมชน สถาบัน หรือองค์กรใดๆ เพราะจะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
#เลือกตั้ง66