กรมอุทยานฯสั่งอายัดไม้ประดู่กว่า300ท่อนในโรงงานแปรรูป เชื่อมโยงเครือข่ายตัดไม้ข้ามชาติ

07 เมษายน 2566, 14:51น.


          การลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ล่าสุด สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ได้ติดตามกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยผึ้ง-วังยาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ จนถึง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้แล้ว โดยกระบวนการเริ่มระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึงวันที่ 6 เมษายน 2566 สามารถสืบพบแหล่งพักไม้ที่โกดังแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัวพร้อมหมายค้น ในท้องที่ ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่         



          นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เข้าตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้แห่งหนึ่งใน ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังจากหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือ ชุดพญาเสือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหมายศาลเข้าตรวจค้น และยึดไม้ประดู่ขนาดใหญ่ 11 ท่อน ที่พบว่าลักลอบตัดจากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยผึ้งวังยาว จ.อุตรดิตถ์ นำมาเก็บไว้ที่โรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ และยังอายัดไม้ประดู่อีก 360 ท่อน ที่พบในโรงงานไว้ตรวจสอบ



          ทีมงานกรมอุทยานฯ ได้ติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้ประดู่มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบการลักลอบตัดในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ จึงฝังจีพีเอสจนกระทั่งขอหมายศาลเข้าตามยึดได้ โดยหลังจากนี้จะให้มีการพักใช้ใบอนุญาต หากผู้ประกอบการไม่มีเอกสารการได้ไม้ประดู่มาอย่างถูกต้อง ก็จะถูกดำเนินคดีและจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนเจ้าของโรงงานหากไม่มาแสดงตัวพบเจ้าหน้าที่ ก็จะให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป 





          โดยโรงงานแห่งนี้เปิดกิจการเป็นโรงเลื่อยแปรรูปไม้ขนาดใหญ่ ภายในพื้นที่ตรวจพบไม้ประดู่ท่อนที่ไม่พบรูปรอยดวงตราประทับไม้ ของพนักงานเจ้าหน้าที่กองอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจอายัดเป็นของกลาง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พบการลักลอบตัดไม้ประดู่จำนวนหนึ่ง ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ห้วยผึ้ง-วังยาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ต่อมาวันที่ 2 มีนาคม หน่วยพญาเสือทำการฝัง เครื่องติดตามผ่านดาวเทียมเข้าไปในท่อนไม้ เพื่อติดตามเส้นทางการเคลื่อนย้าย





          จากนั้นวันที่ 16 มีนาคม สัญญาณระบุไม้ถูกเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ในโกดังที่ ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ก่อนที่จะถูกเคลื่อนย้ายมาที่โรงงานแปรรูปไม้ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 เมษายน นำไปสู่การขอหมายค้นจากศาล จ.เชียงใหม่ และเข้าตรวจยึดไม้ที่ถูกลักลอบตัดทั้ง 11 ท่อน โดยในส่วนของไม้ทั้ง 11 ท่อน ผู้ครอบครองจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ส่วนไม้ประดู่ที่พบในโรงงานอีก 360 ท่อน หากไม่สามารถแสดงหลักฐานการได้มาที่ถูกต้อง จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 371 ท่อน 6,689,200 บาท





          สำหรับโรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ ตรวจสอบพบว่าขออนุญาตประกอบกิจการโรงเลื่อยถูกต้องและพบว่าหนึ่งในหุ้นส่วนบริษัท เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ราชบุรีจะมีการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร และจะต้องดำเนินการตามระเบียบ ทั้งทางวินัยและกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้เรียนไปที่อธิบดีกรมป่าไม้ให้ทราบแล้ว และได้ประสานไปยัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งทีมเข้าร่วมขยายผล เพราะถือเป็นคดีใหญ่และเป็นเครือข่ายค้าไม้ข้ามชาติ



 



#ค้าไม้ข้ามชาติ



#ฝังจีพีเอสในไม้



CR:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ข่าวทั้งหมด

X