หลังจาก สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (4 เม.ย.66) ตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.5% แตะที่ 101.5858 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 3.352% เมื่อคืนนี้
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขายปลีกทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศเช้านี้(5 เม.ย.66) ปรับเพิ่มขึ้นบาททองคำละ 400 บาทจากวานนี้ ตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก เปิดตลาด เมื่อเวลา 09.20 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 32,350.00 ขายออกบาททองคำละ 32,450.00 ขณะที่ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 31,760.20 ขายออกบาททองคำละ 32,950.00
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมาทะลุ 2,000 ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ลดลง หลังจากตัวเลขจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครออกมาแย่กว่าตลาดคาดไว้ และเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.64 และยังต่ำกว่าระดับ 10 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2564 ส่งผลต่อการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค.66 ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองเท่าเดิม
ราคาทองคำเริ่มกลับมาสดใส แต่ยังคงคาดว่าอาจเกิดการปรับฐานเล็กน้อยก่อนที่จะปรับขึ้นไปต่อ สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อทองคำ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หรือรอให้เกิดปรับฐานรอบใหม่แล้วเข้าซื้อ ราคาทองคำมีแนวรับ 2,000 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,990 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำ มีแนวต้าน 2,025-2,030 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,040 ดอลลาร์
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้สัญญาทองคำ ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
#ทองคำราคาพุ่ง
แฟ้มภาพ
CR:ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส