ชลัมเบอร์เจอร์ บริษัทผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกแห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จากสำนักงานใหญ่ ในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อวันพฤหัสบดี ว่า บริษัทเตรียมปลดพนักงานระลอกใหม่อีก 11,000 คน หลังผลประกอบการช่วงไตรมาสแแรกของปีนี้ย่ำแย่ จากผลกระทบของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลง ปาล คิบส์การ์ด หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของชลัมเบอร์เจอร์ กล่าวว่า การปลดคนงานครั้งล่าสุด สาเหตุจากการลดลงอย่างมากของการขุดเจาะน้ำมันบนดินในทวีปอเมริกาเหนือ และจากการลงทุนในต่างประเทศที่ลดลงของบริษัทน้ำมันต่างๆ การลดตามที่ประกาศล่าสุด มีขึ้นหลังการประกาศปลดพนักงาน 9,000 คน ตามแผนที่กำหนดไว้ในเดือน ม.ค. ปัจจุบันชลัมเบอร์เจอร์มีพนักงานอยุ่ทั่วโลกทั้งหมดประมาณ 1 แสน 15,000 คนชลัมเบอร์เจอร์ ซึ่งลูกค้ารายใหญ่รวมถึง เอ็กซอนโมบิล และ บีพี ผลประกอบการช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ลดลงร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 988 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายได้ของบริษัทลดลงร้อยละ 8.8 อยู่ที่ 10.25 พันล้านดอลลาร์
รายงานประจำเดือนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ระบุว่า กลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม คาดว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะลดลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ระบุว่า การเพิ่มปริมาณการผลิตของซาอุดิอาระเบียและอิรัก ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นราว 810,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนมีนาคม กลุ่มโอเปกคาดว่าอุปสงค์สำหรับน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปกในปีนี้จะเพิ่มเป็น 29.27 ล้านบาร์เรลต่อวันสำหรับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่แข่ง กลุ่มโอเปกประเมินว่าปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะเริ่มลดลงในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง ก่อนหน้านี้กลุ่มโอเปกปฏิเสธที่จะลดปริมาณการผลิตเมื่อปีก่อน แม้ว่าราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี แต่โอเปกคาดว่าราคาน้ำมันจะเริ่มกระเตื้องขึ้นในปีนี้