*รมว.ยุติธรรม พบนายกฯชี้แจงรายชื่อขรก.พัวพันทุจริต/เอกชนให้รัฐสอบผ่านผลงาน6เดือน*

+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) นายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อชี้แจงรายละเอียดแต่ละคดีที่มีข้าราชการเข้าไปพัวพันเกี่ยวกับการทุจริต ในจำนวน 100 รายชื่อ ที่เลขาธิการ ป.ป.ท. เสนอให้นายกฯ  พิจารณาเมื่อวันศุกร์ที่ 10 เม.ย. พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า  ได้นำ 4 หน่วยงานที่เสนอรายชื่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตมาชี้แจงรายละเอียดแต่ละรายชื่อต่อนายกฯ ว่า มีมูลเหตุอย่างไร สมควรแค่ไหน ท้ายสุดขึ้นอยู่กับนายกฯ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่จากผลการชี้แจงครั้งนี้นายกฯ พอใจ อย่างไรก็ตามการนำเสนอรายชื่อข้าราชการครั้งนี้เป็นโทษทางวินัยและปกครอง ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา เพราะคดีอาญาจะต้องว่ากันต่อไป ส่วนจะลดปัญหาการทุจริตได้หรือไม่ คิดว่าอย่างน้อยได้ดำเนินการให้เห็นแล้วว่าเอาจริง เมื่อก่อนพอไม่มีการดำเนินการทางวินัยและปกครอง ทำให้ต้องรอคดีอย่างน้อย 4 ปี ติดขั้นตอนอัยการสูงสุด (อสส.) บ้าง ศาลบ้าง ซึ่งน่าเห็นใจแต่ละหน่วยงานเหมือนกัน เพราะเขาต้องทำตามขั้นตอน ทั้งนี้โทษทางวินัยและปกครอง มีตั้งแต่การโยกย้าย ปรับย้ายออกจากตำแหน่ง เป็นการเอาออกจากจุดที่มีปัญหา แต่ไม่ถึงไล่ออก เพราะการไล่ออกต้องให้คดีอาญาถึงที่สุดก่อน

+++ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้รับรายชื่อทั้งหมดแล้ว และได้ส่งรายชื่อให้เจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวงตรวจสอบ หากพบว่ามีมูลความผิดจริง จะให้พักราชการไว้ก่อน แต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่หลังสอบสวนแล้วพบว่ากระทำความผิดจริง จะต้องดำเนินคดีต่อไป ส่วนตัวจะไม่เข้าไปยุ่ง และจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแต่ละกระทรวง

+++พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงผลสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ระบุรัฐบาลได้รับคะแนนผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือน ที่ 4.8 ว่ารัฐบาลรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วน รวมทั้งจากผลสำรวจทุกสถาบันที่ออกมา สำหรับผลการสำรวจล่าสุด หากเข้าไปดูในรายละเอียดจะพบว่า มีการถามเป็นสองส่วนคือ ความพึงพอใจต่อแนวนโยบายและการให้คะแนนผลการดำเนินงาน ซึ่งคะแนนความพึงพอใจในนโยบายอยู่ในระดับดีมากในระดับ 7-8 คะแนน ขณะที่คะแนนที่ได้น้อยคือคะแนนต่อผลการทำงานตามนโยบาย ซึ่งสะท้อนว่าการวางนโบายของรัฐบาลได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากประชาชนและภาคธุรกิจ เป็นการชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมาถูกทาง รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของคะแนนผลงานที่ประชาชนยังให้คะแนนไม่สูง เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องนำกลับมาทบทวนวิธีการสื่อสารเผยแพร่ผลงานให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างทั่วถึง ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า การปฏิบัติตามนโยบายบางประการเป็นเรื่องของการวางรากฐานสำหรับอนาคต รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาว จึงอาจจะยังไม่ส่งผลให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจนในช่วงระยะเวลาอันสั้นได้ 

+++นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือนว่า ผลงานรัฐบาลถือว่าสอบผ่านและยอมรับได้ ทั้งการแก้ไขใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (แบบ รง.4) ให้ชัดเจน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถลงทุนในการผลิตได้ดีขึ้น พร้อมเชื่อมั่นว่าภาคอุตสาหกรรมมีความมั่นใจมากขึ้น  รัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีมาตรการสนับสนุนทางการเงินให้กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ส่งผลให้มีการผ่อนคลายดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการ SMEs เหลือร้อยละ 4 พร้อมยอมรับว่า SMEs ไทยยังต้องการการสนับสนุนในหลายเรื่อง ทั้งการผลักดันให้ SMEs เข้าสู่ระบบของภาครัฐมากขึ้น เพื่อรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยมีแรงจูงใจจากเรื่องของโครงสร้างภาษี และการนิรโทษกรรมภาษีให้กับผู้ประกอบการ SMEs

+++สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดให้สมาชิกสปช.รับร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณาเสร็จแล้วเป็นร่างแรก ได้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. บริเวณห้องโถง ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 แต่ปรากฎว่าสมาชิกให้ความสนใจมารอรับร่างรัฐธรรมนูญก่อนเวลาเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศคึกคักตั้งแต่เวลา 12.00 น. และเริ่มแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญก่อนเวลาที่กำหนด นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช.แจกร่างรัฐธรรมนูญให้กับสมาชิกด้วยตัวเอง  

สำหรับสมาชิกสปช. 1 คน จะได้รับแจกเอกสาร 3 ชุด ประกอบด้วย 1.ร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 194 หน้า โดยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ 315 มาตรา จำนวน 130 หน้า รายงานการทำงานของกมธ.ยกร่างฯ 20 หน้า และภาคผนวก 44 หน้า 2.ตารางสรุปเจตนารมณ์รายมาตราของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน 4 เล่ม และ3.ตารางร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

+++นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ นายบูรณ์ ฐาปณดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงย้ำจุดยืนไม่เห็นด้วยที่จะให้ควบรวมสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตามความเห็นของกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายศรีราชา กล่าวว่า ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่เพื่อประชาชน  การไม่ควบรวมน่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เนื่องจากจะมีแนวโน้มให้ทำงานไม่เป็นอิสระเหมือนเดิมและยากขึ้น และมีสิ่งที่ขัดกัน ทั้งเรื่องอำนาจและการบริหารภายในองค์กร อาจเกิดปัญหา 2 มาตรฐาน และกมธ.หลายคณะเชิญผู้ตรวจการฯ ไปชี้แจง ซึ่งได้ยืนยันจุดยืนไปว่า ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม

+++หุ้นไทย ปิดตลาดวันนี้ ลดลง 3.15จุด  ดัชนีอยู่ที่1,566.85จุด มูลค่าซื้อขาย 4.6หมื่นล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 232.89 จุด  ปิดที่ 19,652.88 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้บ่งชี้ถึงการชะลอตัวลง ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตพุ่ง 92.47 จุด ปิดที่ 4,287.30 จุด --ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 86.59 จุด ปิดที่ 27,653.12 จุด



+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการสอบสวนคดีแชร์ลูกโซ่บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ว่า ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างพิจารณาว่าคดีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแนบท้ายพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ ทั้งในส่วนของข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงรวมถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับว่าควรให้หน่วยงานใดรับผิดชอบจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ปคบ.) เกี่ยวกับการจับกุมผู้กระทำผิดและการแจ้งข้อหาเพื่อพิจารณาว่ามีความเชื่อมโยงกับการสอบสวนของดีเอสไอก่อนหน้านี้หรือไม่  ทั้งนี้ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ เน้นให้มีการพิจารณาประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การสอบสวนของดีเอสไอยังไม่มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเห็นว่าบริษัทยังดำเนินกิจการได้

+++ขณะที่ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ร่วมกันนำหมายศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 352/2558 ลงวันที่ 17 เม.ย. 58 เข้าตรวจค้นหาเอกสารสำคัญของคดีนี้ ที่หมู่บ้านอภิญญา บ้านเลขที่ 40/10 หมู่ 5 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.หรรษา ธาราบัณฑิต อายุ 36 ปี น้องสาวของ น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต อายุ 41 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ ตม.จับกุมได้ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย เมื่อวันที่ 16 เม.ย. พบเอกสารต่างๆ จำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องนำไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ นอกจากนี้ ยังพบคอมพิวเตอร์พีซี 1 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ตู้เซฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน การเข้าตรวจค้นบ้านหลังนี้ เป็นบ้านของหนึ่งในแม่ข่ายที่เคยโอนเงินเข้าบริษัทยูฟัน พร็อพเพอร์ตี้ จำนวน 6,300,000 บาท พร้อมจะติดตามจับกุมในฐานะที่เป็นแม่ข่ายด้วยข้อหาเดียวกันกับ น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต ซึ่งเป็นพี่สาว แต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ต้องดูจากเอกสารและหลักฐานต่างๆ ที่พบอยู่ในบ้าน ซึ่งคาดว่าจะได้หลักฐานสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากสืบทราบว่า เอกสารสำคัญของ น.ส.ณมนพรรณ์ ถูกขนย้ายมาไว้ในบ้านหลังนี้  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม 5 ใน 12 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้แล้ว ยังเหลือนายอาทิตย์ ปานแก้ว นายเท คิมเลง นายลี ควนมิง นายวอน ชิงหัว พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน นางจิราภิมณช์ สุ่นปาน และน.ส.หรรษา ธาราบัณฑิต

+++คดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ  พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสบโชคชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ได้ควบคุมตัวนาย ภรา ชูศรี อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนพนักงานสาวร้านบาร์เบียร์อย่างโหดเหี้ยม ทำแผนที่โรงแรมเกิดเหตุ ระหว่างการทำแผนประกอบรับคำสารภาพ ผู้ต้องหาอ้างว่าจำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมด เพราะกินยากล่อมประสาทไปกว่า 10 เม็ด ประกอบกับเมาสุรา พลตำรวจตรี มนตรี สัมปุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ว่าผู้ต้องหาเคยก่อคดีในพื้นที่ ตำรวจนครบาลและพื้นที่จังหวัดชลบุรีด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีแผนประทุษกรรมคล้ายกันรวมทั้งอาจจะมีการแจ้งข้อหาชิงทรัพย์เพิ่ม เนื่องจากผู้ต้องหา นำทรัพย์สินของผู้ตายไปด้วย  โดยแจ้งข้อกล่าวหาไม่มีเจตนาฆ่าทำร้ายร่างกายจนถึงตาย ขณะเดียวกันจะได้รวบรวม พยานหลักฐานเพิ่ม อย่างไรก็ตาม จะส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจสภาพจิต เพื่อให้แพทย์ลงความเห็นว่ามีอาการทางจิต ขณะลงมือก่อเหตุหรือไม่ หากผลการตรวจไม่พบว่ามีอาการทางจิตระหว่างก่อเหตุ จะมีการแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยการทารุณกรรมเพิ่มเติม หลังจากทำแผนเสร็จตำรวจคุมตัวกลับมาโรงพัก เพื่อรอให้ พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก และ สภ.แม่ปิง อีก 2 คดีมาสอบสวน ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับคัดค้านการให้ประกันตัวด้วยเพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปก่อคดีทำนองนี้ซ้ำอีก

+++นางฮิลลารี รอดแฮม คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งเพิ่้งเปิดตัวเป็นผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ  ปี 2016 ได้พยายามเจาะกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นผู้อพยพ ด้วยการบอกว่า ปู่ย่าตายายของเธอ ก็ไม่ได้เกิดในสหรัฐฯเช่นกัน นางฮิลลารี พูดในระหว่างการหาเสียงที่รัฐไอโอวาว่า ปู่ยาตายายของเธอก็เดินทางเข้ามาในสหรัฐฯในฐานะผู้อพยพ และหนึ่งในจำนวนนี้ อพยพไปยังรัฐเพนซิลเวเนีย และทำงานในโรงงานผ้าไหม แต่จากบันทึกการสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ได้แสดงให้เห็นว่า มีเพียงน้องชายปู่ของเธอคนเดียวเท่านั้น ที่เกิดนอกประเทศสหรัฐ จากเอกสารที่ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ ได้แสดงให้เห็นว่า การไม่พูดความจริงเกี่ยวกับความเป็นมาของครอบครัว อาจเป็นเพราะต้องการหาเสียงจากนักเคลื่อนไหวเพื่อผู้อพยพ ด้วยการชูโยบายสนับสนุนการเปลี่ยนสถานภาพผู้อพยพที่ผิดกฎหมายหลายล้านคน  ทีมรณรงค์หาเสียงของนางฮิลลารี ต้องรีบออกมาแก้ข้อผิดพลาดทันที พร้อมชี้แจงว่า ทุกอย่างที่เธอพูดออกมา ก็มาจากเรื่องราวที่ได้รับการบอกเล่าจากปู่ย่าตายายทั้งนั้น

+++เว็บไซต์เดอะโกลบอลแอนด์เมลของแคนาดารายงานอ้างนางแพตทริเซีย เฮนซ์แมน นายกเทศมนตรีเมืองสวอมิช และนางคิม สเตจแมน เจ้าหน้าที่การท่าเรือเมืองสควอมิช ทางตะวันตกของประเทศว่า มีควันหนาทึบและกลิ่นเหม็นลอยอยู่เหนือท้องฟ้า หลังเกิดเหตุไฟใหม้ที่โกดังสินค้าที่ท่าเรือน้ำลึกในเมืองสควอมิช รัฐบริติชโคลัมเบีย เมื่อคืนวานนี้ สร้างความเสียหายต่อท่าเรือเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เจ้าหน้าที่เทศบาลแจ้งเตือนชาวบ้านให้อยู่แต่ในบ้านและปิดประตูหน้าต่างบ้านเรือนเนื่องจากสภาพอากาศแย่มาก โดยไฟใหม้เริ่มลุกไหม้เมื่อราว 18.00 น.เจ้าหน้าที่สามารถดับเพลิงได้เมื่อเวลา 21.30 น.ขณะเกิดเหตุมีเรือหลายลำจอดเทียบท่า แต่ไม่ถูกไฟใหม้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุไฟใหม้ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ

+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า เครื่องบินโดยสาร สายการบินบาติกแอร์ของอินโดนีเซีย พร้อมด้วยผู้โดยสาร 125 คน และลูกเรือ 7 คน ที่ออกเดินทางจากเมืองอัมบน ทางตะวันออกของประเทศ มุ่งหน้าสู่กรุงจาการ์ตา ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุลต่าน ฮาซานัดดิน ในเมืองมาคัซซาร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุลาเวสี เมื่อเช้านี้ หลังเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินได้รับข้อความข่มขู่วางระเบิดบนเครื่องบินลำดังกล่าว นายเจ เอ บาราตา โฆษกกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย แถลงว่า หลังเครื่องลงจอดอย่างปลอดภัย ทีมเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบ และพบว่าเป็นเพียงการก่อกวนเท่านั้น และสถานการณ์ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนต่อไป