คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ อนุมัติเงินกู้ยูเครนจำนวน 15,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในกรอบเวลา 48 เดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขยายกองทุน (Extended Fund Facility : EFF) แพ็คเกจสนับสนุนระหว่างประเทศมูลค่า 115,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบไปด้วยการบรรเทาหนี้ เงินให้เปล่า เงินกู้จากสถาบันพหุภาคีและทวิภาคี ในการดำเนินงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
เงินกู้จำนวนนี้ยังมีมูลค่าสูงสุดที่ยูเครนเคยได้รับนับตั้งแต่รัสเซียรุกราน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งไอเอ็มเอฟมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการพิจารณาเงินกู้สำหรับประเทศที่เผชิญกับ "ความไม่แน่นอนสูงเป็นพิเศษ" โดยเป็นครั้งแรกที่ไอเอ็มเอฟอนุมัติเงินกู้จำนวนมากให้กับประเทศที่กำลังอยู่ในความขัดแย้ง ซึ่งเป็นการสานต่อความตกลงระดับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 บนพื้นฐานที่ว่ายูเครนจะเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป หรืออียูหลังสงครามจบลง และจะเป็นการเปิดทางให้ประเทศผู้บริจาคและองค์กรหุ้นส่วนมอบการสนับสนุนยูเครนเพิ่มเติมในอนาคต
ในรายงานของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า การรุกรานของรัสเซียทำให้เศรษฐกิจของยูเครนหดตัวประมาณร้อยละ 30 ในปีที่แล้ว (2565) ทำให้เงินทุนสำรองลดลงอย่างรวดเร็ว และทำให้ปัญหาความยากจนรุนแรงขึ้น
นางกิตา โกปินาธ รองกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า โครงการใหม่ระยะเวลา 4 ปีนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องเศรษฐกิจมหภาคและเสถียรภาพทางการเงิน การปฏิรูปโครงสร้างที่สำคัญ ในขณะที่สงครามยังดำเนินต่อไป โดยจากจำนวนเงินทั้งหมดที่ได้รับอนุมัติ จะมีการมอบให้กับยูเครนทันที 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนที่เหลือจะทยอยจ่ายโอนในระยะ 4 ปีข้างหน้า
...
#เงินกู้ยูเครน
#กองทุนการเงินระหว่างประเทศ