GISTDA เปิดข้อมูล 94 อำเภอใน 7 จังหวัดภาคเหนือของไทย เผชิญฝุ่นPM2.5สีแดงกระทบสุขภาพ

30 มีนาคม 2566, 15:06น.


          สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  หรือ GISTDA เปิดเผยว่า  94 อำเภอใน 7 จังหวัดทางเหนือค่าฝุ่นPM2.5 แตะระดับแดงสุด เกินค่ามาตรฐานมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ



          จากการตรวจสอบค่าฝุ่น PM2.5 ด้วยแอปพลิเคชัน เช็คฝุ่น แบบรายชั่วโมงต่อชั่วโมง เมื่อเวลา 14.00 น. (30 มีนาคม 2566) พบหลายจังหวัดของประเทศไทยมีค่า PM2.5 มากกว่า 50 ไมโครกรัม โดยเฉพาะพื้นที่ 94 อำเภอใน 7 จังหวัดทางภาคเหนือที่เกินค่ามาตรฐานทะลุกว่า 200 ไมโครกรัม และอยู่ในระดับสีแดงซึ่งมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ประกอบด้วย



-เชียงราย 18 อำเภอ



-เชียงใหม่25 อำเภอ



-แม่ฮ่องสอน 7 อำเภอ



-พะเยา 9 อำเภอ



-น่าน 15 อำเภอ



-ลำปาง 12 อำเภอ และ



-ลำพูน 8 อำเภอ



          ดังนั้น ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา



          ส่วนที่กรุงเทพมหานคร พบค่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดี



          นอกจากนั้น สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ



          ข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 29 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อน 2,870 จุด โดยมีเพื่อนบ้านอย่างพม่าขึ้นนำอยู่ที่ 3,964 จุด, สปป.ลาว 2,139 บาท, เวียดนาม 205 จุด, กัมพูชา 195 จุด และมาเลเซีย 53 จุด



          สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์ 1,479 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,080 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 111 จุด, พื้นที่เกษตร 100 จุด, พื้นที่เขต สปก. 86 จุด, และพื้นที่ริมทางหลวง 14 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ เชียงใหม่ 608 จุด, แม่ฮ่องสอน 522 จุด และเชียงราย 435 จุด



 



 



#จุดความร้อน



#ไฟป่า

ข่าวทั้งหมด

X