ธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ของสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการและหนี้สินของ SVB

       บีบีซีรายงานสถาบันคุ้มครองเงินฝากของสหรัฐฯ(FDIC)ว่า บริษัทเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส (First Citizens BancShares) เจ้าของธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ (First Citizens Bank) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองราเลห์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ตกลงรับซื้อสินทรัพย์มูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์ของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์(SVB) คู่แข่ง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมทั้งรับโอนหนี้สินในราคาส่วนลดรวม 16,500 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน FDIC ถือสินทรัพย์ในธนาคาร SVB มูลค่า 90,000 ล้านดอลลาร์

       FDIC ระบุว่า สาขาเดิม 17 แห่งของ SVB จะเปิดให้บริการในชื่อแบรนด์ของธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ เริ่มจากวันนี้(27 มีนาคม 2566) พร้อมแนะนำให้ลูกค้าเดิมของ SVB ยังคงใช้บริการที่สาขาเดิมของ SVB ไปจนกว่าธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ จะแจ้งให้ลูกค้าไปเปลี่ยนแปลงบัญชีธนาคารใหม่

       ก่อนหน้านี้ ธนาคาร SVB ถูกหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบ หรือ เรกูเลเตอร์ของสหรัฐฯเข้าควบคุมกิจการเมื่อต้นเดือนนี้ หลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเนื่องจากลูกค้าจำนวนมากแห่ถอนเงินจากธนาคาร จากนั้นไม่นาน ธนาคารที่ 2 คือ ซิกเนเจอร์ แบงก์(SB) ล้มเมื่อวันที่ 12 มีนาคม นับเป็นวิกฤตของธนาคารครั้งใหญ่ของสหรัฐฯนับแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2551

      ทั้งนี้ การล้มละลายของธนาคาร SVB และ SB เมื่อต้นเดือนนี้ ทำให้เกิดกระแสหวั่นวิตกในเรื่องเสถียรภาพของธนาคารอื่นๆ ทำให้หุ้นธนาคารร่วงทั่วโลก ก่อนหน้านี้ HSBC ได้ซื้อกิจการของธนาคาร SVB สาขาอังกฤษ เมื่อต้นเดือนนี้ในราคาเพียง 1 ปอนด์

       ในยุโรป นักลงทุนยังคงกังวลเรื่องความมั่นคงทางการเงินของธนาคารเครดิต สวิส ของสวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลให้คู่แข่งคือ UBS เข้าซื้อกิจการของธนาคารเครดิต สวิสในเวลาต่อมา แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่วางใจในกลุ่มหุ้นธุรกิจธนาคาร แม้ว่าหุ้นของกลุ่มธนาคารเพิ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้ ก่อนหน้านี้ หุ้นของธนาคารดอยซ์ แบงก์ของเยอรมนีร่วงร้อยละ 14 ช่วงหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้วก่อนปิดตลาดขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วงแรกของการซื้อขายวันนี้ หุ้นของธนาคารดอยซ์ แบงก์ ขยับขึ้นร้อยละ 3

#สหรัฐฯ

#คู่แข่งซื้อกิจการธนาคารSVB