ระบบขนส่งในเยอรมนีได้รับผลกระทบทั่วประเทศ หลังกลุ่มแรงงานผละงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 31 ปี

        สหภาพแรงงานเยอรมนี(Verdi)จัดให้มีการประท้วงมาหลายครั้งแล้ว  เพื่อขอให้ปรับขึ้นค่าจ้างระหว่างร้อยละ 10.5-12 สูงกว่าเงินเฟ้อร้อยละ 8.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทั้งนายจ้างและลูกจ้างตกลงกันไม่ได้ บีบีซีรายงานอ้างนายแฟรงก์ เวอร์นิเก ประธานสหภาพแรงงานของเยอรมนี(Verdi)ว่า แรงงานจาก 2 องค์กรหลักคือ แรงงานจากบริษัทดอยช์ บาห์น ผู้ให้บริการรถไฟแห่งชาติของเยอรมนีและแรงงานจากกลุ่มบริษัทรถประจำทางของเยอรมนี นัดหยุดงาน 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันอาทิตย์(หรือราว 05.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาของประเทศไทย)ไปตลอดวันนี้ นับเป็นการผละงานประท้วงรุนแรงที่สุดในรอบ 31 ปี  โดยมีแรงงานจากสนามบิน ท่าเรือ รถไฟ รถประจำทาง และรถไฟใต้ดินเข้าร่วมประท้วง กระทบระบบคมนาคมทั่วประเทศ

        สหภาพแรงงานเยอรมนี หวังว่า การนัดหยุดงานประท้วงก่อนการนัดเจรจาระหว่างตัวแทนนายจ้างกับตัวแทนสหภาพแรงงานในวันนี้ จะกดดันให้บริษัทนายจ้างยอมตกลงปรับขึ้นเงินเดือนสำหรับลูกจ้าง โดยนายเวอร์นิเก กล่าวถึงการขอปรับขึ้นค่าจ้างว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อการอยู่รอดของแรงงานหลายพันคนในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งค่าครองชีพแพง เงินเฟ้อสูง นอกจากนั้น แรงงานส่วนใหญ่ของเยอรมนีไม่เพียงแต่ค่าแรงถูก แต่พวกเขาทำงานล่วงเวลาอีกด้วย

        ด้านบริษัทดอยช์ บาห์น ตำหนิการหยุดงานประท้วงของสหภาพแรงงาน ระบุว่าเป็นการเรียกร้องที่มากเกินไป ไม่มีเหตุผลและไม่มีความจำเป็น ผลกระทบที่เกิดจากการประท้วง เช่น ท่าอากาศยานเมืองมิวนิกและสนามบินเมืองแฟรงค์เฟิร์ต มีการยกเลิกหลายพันเที่ยวในวันนี้ ด้านสมาคมบริษัทท่าอากาศยานของเยอรมนี คาดว่า การหยุดงานประท้วงในวันนี้จะกระทบผู้โดยสาร 380,000 คนสำหรับสหภาพแรงงานของเยอรมนี(Verdi)มีแรงงาน 2.5 ล้านคน เป็นสมาชิกจากหน่วยงานบริการสาธารณะ เช่น รถไฟ และสนามบิน

        ก่อนหน้านี้ บางองค์กรเช่น สหภาพแรงงานไปรษณีย์เยอรมนี ประสบความสำเร็จในการขอปรับขึ้นค่าจ้าง โดยบริษัทการไปรษณีย์ของเยอรมนีมีมติให้ปรับขึ้นเงินค่าจ้างร้อยละ 11.5 เมื่อต้นเดือนมีนาคม

#เยอรมนี

#นัดหยุดงานประท้วง