ตำรวจฝรั่งเศสยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงคัดค้านการสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งใหม่ที่แซ็งต์โซลีน ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ และมีรถตำรวจหลายคันถูกวางเพลิง ในระหว่างที่มีการปะทะกันในไซต์ก่อสร้าง
เหตุการณ์ที่แซ็งต์โซลีนมีขึ้นหลังจากที่มีการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลเป็นเวลาหลายสัปดาห์ในกรุงปารีสและเมืองอื่นๆ เกี่ยวกับการปฏิรูปเงินบำนาญ ซึ่งแม้ว่าทั้ง 2 เหตุการณ์จะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ทำให้ประชาชนจำนวนมากมีความไม่พอใจเพิ่มมากขึ้น
โดยในการชุมนุมประท้วงต่อต้านโครงการอ่างเก็บน้ำในแซ็งต์โซลีน ใกล้ปัวติเยร์ มีผู้เข้าร่วมการประท้วงเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะมีการสั่งห้ามการชุมนุมในเขตก็ตาม ทางการท้องถิ่น เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าของวันเสาร์ (25 มี.ค.66) ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เข้าร่วมการประท้วง 6,000 คน ส่วนผู้จัดงานระบุว่ามีผู้เข้าร่วมการประท้วง 25,000 คน
ปัญหาภัยแล้งในปีที่แล้วทำให้มีการถกเถียงเรื่องทรัพยากรน้ำ ซึ่งผู้สนับสนุนโครงการระบุว่า อ่างเก็บน้ำสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนในช่วงฤดูแล้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
แต่กลุ่มผู้คัดค้าน เห็นว่าโครงการนี้สนับสนุนผู้ผลิตการเกษตรรายใหญ่ ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น
สำนักงานตำรวจของฝรั่งเศส ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 3,000 นายไปที่แซ็งต์โซลีนเนื่องจากได้รับรายงานว่ามีนักเคลื่อนไหวที่อาจใช้ความรุนแรงอย่างน้อย 1,000 คนเข้าร่วมการเดินขบวน
ขณะที่การชุมนุมประท้วงในช่วงแรกที่ดำเนินไปอย่างสงบ กลายเป็นการก่อความรุนแรง เมื่อมีผู้ประท้วงหลายคนขว้างปาดอกไม้ไฟเข้าใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อพยายามเข้าไปใกล้พื้นที่ก่อสร้าง ทำให้เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา และควบคุมตัวผู้ประท้วงหลายคน ซึ่งในการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธ รวมทั้งลูกเปตองและมีดแล่เนื้อ
ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่าจะไม่ยอมแพ้ต่อการใช้ความรุนแรง เพราะในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีสิทธิ์ใช้ความรุนแรง
…
#ประท้วงฝรั่งเศส