ทองคำโลก ได้ปัจจัยบวก ทำนิวไฮในรอบกว่า 1 ปี คาดราคาทะลุ $ 2,000

          ราคาทองคำ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.66) สูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกแค่ 1 ครั้ง และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.8% ในปี 67 และ 1.2% ในปี 68

-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.66  เพิ่มขึ้น 46.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,995.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

          ราคาทองคำ ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจาก ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

          โกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาทอง พร้อมกับระบุว่า ทองเป็นสินทรัพย์ที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน คาดว่า ราคาทองจะพุ่งแตะระดับ 2,050 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1,950 ดอลลาร์

          รายงานระบุว่า ราคาทองได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์, การเปิดประเทศของจีน, คำสั่งซื้อของธนาคารกลาง และความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งกระแสไหลเข้าของกองทุน ETF หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยของเฟด แตะระดับสูงสุด

          CNBC รายงานว่า Tina Teng จากบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน CMC Markets กล่าวว่า การที่ เฟด เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจาก การลดลงของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร คาดว่า ทองคำจะซื้อขายระหว่าง 2,500 ถึง 2,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์

          ทองคำซื้อขายที่ 1,940.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันจันทร์(20 มี.ค.66) ราคาทะลุ 2,000 ดอลลาร์ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.65 ทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.66  เมื่อ SVB ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของธนาคารจนต้องปิดกิจการ 

#ทองคำโลก

แฟ้มภาพ

CR:CNBC