*ก.คลัง เพิ่ม 3 มาตรการพัฒนากองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง*

มาตรการเพื่อสนับสนุนและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองของกระทรวงการคลัง หลังการลงพื้นที่เพื่อศึกษาการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้าน นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงมีมาตรการช่วยเหลือกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 3 มาตรการ คือการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบเพื่อสร้างความมั่นคงแก่กองทุน โดยเห็นว่าต้องแก้ไขร่างพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและระเบียบกองทุนหมู่บ้าน รวมทั้งควรยกระดับกองทุนหมู่บ้านให้เป็นสถาบันการเงินชุมชนเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน และระเบียบกองทุนฯ ,การปรับปรุงรูปแบบการทำงานของกองทุนหมู่บ้าน โดยเฉพาะการบริหารจัดการให้มีรูปแบบมากขึ้น โดยต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลให้ครบ รวมทั้งต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่กองทุนฯ หลังพบว่าบางกองทุนมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อการทำงาน และสุดท้ายคือ การสนับสนุนด้านการเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านฯ โดยจะมีมาตรการการเงินสองส่วน คือ ส่วนแรกที่เป็นของรัฐบาลเก่าในอดีตที่รัฐบาลสนับสนุนเงินให้กองทุนหมู่บ้านกองทุนละ 1 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เหลืออีกเกือบ 20,000 กองทุนที่ยังไม่ได้เงินสนับสนุน รวมแล้วเป็นงบกว่า 20,000ล้านบาท สาเหตุที่ยังไม่ได้เงินสนับสนุนเนื่องจากเป็นกองทุนระดับพอใช้ถึงต้องปรับปรุง ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาก่อน กว่า 12,000 แห่ง และระดับต้องปรับปรุงราว 7,000แห่ง เมื่อกองทุนหมู่บ้านปรับปรุงปัญหาต่างๆได้แล้ว รัฐบาลจะให้เงินสนับสนุน 1 ล้านบาทต่อกองทุนเพื่อนำไปพัฒนา โดยเป็นเงินให้เปล่าไม่มีดอกเบี้ย คาดว่ากองทุนระดับพอใช้กว่า12,000 แห่งจะเริ่มทยอยจ่ายเงินได้ภายใน 4 เดือนข้างหน้านี้ โดยจะมีธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธกส. เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้านเงินทุนต่อยอดแก่กองทุนหมู่บ้าน ที่ธนาคารออมสินและธกส.จะสนับสนุนให้กับกองทุนหมู่บ้านระดับดีถึงดีมากกว่า 59,874 กองทุน โดยมียอดรวม 40,000ล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารละ 20,000ล้านบาท มีระยะเวลาสนับสนุน 2 ปี โดยธนาคารจะเก็บดอกเบี้ยจากกองทุนอัตราร้อยละ 5 ต่อปี และเงินที่ธนาคารปล่อยกู้ให้นั้น กองทุนสามารถนำไปปล่อยกู้ให้กับสมาชิกได้ในอัตราร้อยละ 8-10 ต่อปี  โดย2 มาตรการนี้ ไม่ต้องผ่านคณะรัฐมนตรี เพราะกระทรวงสามารถผ่านได้เอง แต่ในส่วนการแก้ไขกฎหมายต่างๆตามข้างต้นต้องเสนอไปยังครม.เพื่อเห็นชอบก่อนส่งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

นาย นที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติหรือ สทบ. ระบุว่า ถือเป็นข่าวดีของกองทุนหมู่บ้านแต่ละแห่ง และก็เห็นด้วยกับสามมาตรการ ที่จะช่วยสมาชิกกองทุนที่มีกว่า 13 ล้านคนทั่วประเทศ ปัญหาของกองทุนขณะนี้ก็คือ การส่งเสริมอาชีพให้สมาชิกมีรายได้ และการแก้ไขหนี้นอกระบบ รวมทั้งการหาแหล่งทุนเสริมซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนารายได้ของสมาชิกที่จะช่วยดูแลประชาชนให้มากขึ้น

ส่วนมาตรการการให้ทุนกองทุนละ 1 ล้านบาทที่เป็นส่วนที่เหลือจากโครงการเก่าของรัฐบาลก่อน ที่ต้องแก้ไขปัญหาในกองทุนหมู่บ้านและจึงจะจัดทำแผนเพิ่มทุนได้ โดยเฉพาะในกองทุนระดับต้องปรับปรุงที่มีคดีคงค้างอยู่กว่า 7,000 กองทุนซึ่งต้องเร่งแก้ไข  ซึ่งหวังว่าจะสามารถจ่ายเงินให้ทุกกองทุนได้โดยเร็ว และเชื่อว่ามาตรการทั้งสามจะช่วยยกระดับกองทุนหมู่บ้านได้มากขึ้น และหวังว่าจะมีผลเป็นรูปธรรมในอนาคต เงินทุนต่อยอดแก่กองทุนหมู่บ้านระดับดีถึงดีมากที่ธนาคารออมสินและธกส.ปล่อยกู้กว่า 40,000ล้านบาทขณะนี้มีกองทุนกว่า 1000 กว่าแห่งขอกู้แล้ว และมีการปล่อยกู้ไปแล้ว 2,000กว่าล้านบาท ส่วนปัญหาหนี้เอ็นพีแอล หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของกองทุนหมู่บ้านนั้นเชื่อว่าธนาคารและกองทุนฯจะจัดการได้ เพราะพบว่าหนี้เอ็นพีแอลไม่ได้สูงมากเกินมาตรฐาน