ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกในวันนี้ (21 มี.ค.66) เคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปิดบวกเมื่อวันจันทร์ (20 มี.ค.66) ท่ามกลางความหวังว่าวิกฤตภาคธนาคารจะคลี่คลายลง หลังยูบีเอส (UBS) ตกลงเข้าซื้อกิจการเครดิต สวิสด้วยเงิน 3.2 พันล้านดอลลาร์
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินวันที่ 21-22 มี.ค.66 ตามเวลาสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ติดตามการประชุมเฟด โดยนักลงทุนให้น้ำหนักในการคงอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ปัจจัยในประเทศ ตลาดน่าได้แรงหนุนจากการยุบสภา คาดว่าจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น อาหารและเครื่องดื่ม, ค้าปลีก, โรงไฟฟ้า เป็นต้น
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ อยู่ที่ 34.04 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้(20 มี.ค.66) ที่ระดับ 34.14 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจาก ดอลลาร์อ่อนค่า หลังนักลงทุนคลายกังวลเรื่องปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ทำให้ตลาดเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น มีเเรงเทขายดอลลาร์เพื่อนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น
ปัจจัยที่ตลาดจับตามองเป็นผลประชุมเฟด เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตว่าจะชะลอการปรับขึ้นหรือไม่ หลังเกิดผลกระทบต่อระบบการเงิน
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.90 - 34.20 บาท/ดอลลาร์
ขณะที่ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากวิกฤตการณ์ในระบบธนาคารขณะนี้
ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวใกล้ชิดและประเมินว่าผลกระทบจากเหตุการณ์ข้างต้นต่อระบบการเงินไทยมีจำกัด จากธุรกรรมของภาคธนาคารและกองทุนประเภทต่างๆ ที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน การกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ไทยเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่เข้มงวด โดยบังคับใช้เกณฑ์ด้านเงินกองทุนและสภาพคล่องกับธนาคารทุกแห่ง ขณะที่บางประเทศ เช่น สหรัฐฯ เน้นการกำกับดูแลที่เข้มงวดกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญเป็นหลัก ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็ก การบังคับใช้เกณฑ์บางอย่าง เช่น เกณฑ์สภาพคล่อง จะไม่เข้มงวดเท่า
HSHsocial ฮั่วเซ่งเฮง รายงานว่า การยุบสภา ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย แต่ด้วยประเด็นต่างประเทศยังคงกดดันการลงทุน ส่งผลให้มีแรงขายออกมาในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง นักลงทุน ต่างไม่มั่นใจว่ามาตรการที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์นำมาช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอาจไม่เพียงพอ และยังมีความกังวลว่า อาจมีสถาบันการเงินอื่นๆประสบปัญหาในลักษณะเดียวกัน ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโดยรวมมีแนวโน้มอ่อนตัว ส่วนการประชุมของเฟดจะทราบผลการประชุมในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี(23 มี.ค.66) คาดว่า จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.25 และต้องติดตามสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตหลังเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องในสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐฯและยุโรป
ราคาทอง Spot สวิงแรงและผันผวน ทำให้สมาคมปรับราคาทอง 15 ครั้งเมื่อวานนี้(20 มี.ค.66) ราคาทองคำ Spot พุ่งขึ้นทะลุระดับ 2,000 ดอลลาร์ ก่อนย่อลงมาพักที่ระดับ 1,975-1,980 ดอลลาร์ เพื่อรอผลการประชุมเฟดในคืนวันพุธ โดยล่าสุด เครื่องมือ FedWatch Tool รายงานความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่ามีโอกาสอยู่ราว 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สวนทางกับบทวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ที่ระบุว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินและเรียกความเชื่อมั่นให้กับตลาด ขณะที่ เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ถือเป็นข้อพิจารณาในระยะกลางที่สามารถกลับมาทำอีกครั้งหลังจากนี้ ทั้งนี้ กองทุน SPDR Gold Trust มียอดซื้อสุทธิ 3.47 ตัน รวมปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้น 924.55 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม วันนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ประจำเดือน ก.พ.66
#เฟด
#วิกฤตธนาคาร
แฟ้มภาพ
CR:ขอบคุณข้อมูล HSHsocial ฮั่วเซ่งเฮง