*คุม2ผตห.ที่ลักทรัพย์บ้านในพื้นที่สน.พหลฯ ที่ฝากบ้านไว้กับตำรวจช่วงสงกรานต์ ชี้จุดลงมือก่อเหตุ*

16 เมษายน 2558, 12:49น.


การนำตัวสองผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายวิโรจน์ หมอยา อายุ 31 ปีและนางสาววาสนา บุญลือ อายุ 20 ปี สองผู้ต้องหาพร้อมของกลางหลายรายการจากกรณีที่ผู้ต้องหาได้เข้าไปขโมยทรัพย์สินบ้านเลขที่ 320 ซอย เสนานิคม 1 แยก 12.แขวง เสนานิคม ที่เป็นบ้านของพ.ต.ท. หญิง ศุภลักษณ์ รักษ์พงศ์ รองผู้กำกับการฝ่ายยุทธศาสตร์การศึกษา ที่เข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2558และจับกุมได้ในเวลาต่อมา ซึ่งอยู่ในพื้นที่สน.พหลโยธิน วันนี้ พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ. เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำชุดสืบสวนสอบสวนมาขยายผลทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำสองผู้ต้องหามายังบ้านเลขที่ 320 ซอย เสนานิคม 1 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ  นายวิโรจน์ ชี้จุดเกิดเหตุว่าตัวเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้มดำ ทะเบียน ฬขง 63 กทม. มาสังเกตลาดเลาบริเวณดังกล่าวหลายรอบตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 12 เม.ย.ก่อนลงมือ และด้วยคุ้นชินทางเพราะเป็นคนในพื้นที่ดังกล่าวจึงรู้ทางหนีที่ไล่ดี ประกอบกับเห็นบ้านดังกล่าวปิดประตู ปิดไฟ ไม่มีรถจอด จึงรู่ว่าบ้านไม่มีผู้อาศัยอยู่ และซอยเสนานิคม 1 นี้ไม่มีไฟส่องสว่างตามซอยสะดวกต่อการลักทรัพย์  จึงได้ตัดสินใจกับนางสาววาสนา แฟนของตัวเองลงมือก่อเหตุ โดยให้นางสาววาสนา รออยู่ข้างนอก จากนั้นนายวิโรจน์ ได้ไปชี้จุดก่อเหตุบริเวณข้างกำแพงบ้านที่สูงเกือบ 2 เมตร ซี่งตัวเองได้ปีนเข้าไป และได้พาไปยังห้องประตูกระจกที่พบหลังจากปีนเข้ามาแล้วอยู่ จึงตัดสินใจใช้ไขควงงัดประตูกระจกออก และเข้าไปขโมยทรัพย์สินที่เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือก และเครื่องประดับจำนวนหนึ่งก่อนจะนัดให้นางสาววาสนา มารับตัวเองบริเวณหน้าบ้าน และตัวเองได้ปีนลงมาทางเดิม จากนั้นนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายเพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ





โดยนายวิโรจน์ ระบุถึงการงัดประตูกระจกว่า เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ไม่ได้มีการเรียนรู้วีธีการมาก่อน และเหตุที่เลือกบ้านหลังนี้ เพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด จึงสะดวกต่อการลงมือ พร้อมฝากบอกว่า หากไม่ต้องการให้คนร้ายลงมือก่อเหตุ ควรมีคนเฝ้าบ้านอยู่ตลอดเวลาและต้องมีอุปกรณ์ป้องกันที่รัดกุมมากกว่านี้ด้วย ขณะที่ น้องสาวของพ.ต.ท. หญิงศุภลักษณ์ ระบุว่า ปกติบ้านนี้มีพี่สาวคือพ.ต.ท.หญิง ศุภลักษณ์อาศัยอยู่กับพี่สาวอีกคนที่ประกอบอาชีพราชการ โดยช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน เพราะพี่สาวทั้งสองออกไปต่างจังหวัดแต่ได้ฝากบ้านไว้กับตำรวจทุกครั้ง เพราะเป็นตำรวจเหมือนกัน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วในรอบ 8 เดือนที่ขโมยขึ้นบ้านพี่สาว ซี่งอาจเป็นเพราะซอยนี้มีทางทะลุหลายทาง และค่อนข้างมืด เปลี่ยว และบ้านก็ไม่มีกล้องวงจรปิด รวมทั้งพี่สาวก็เคยบอกกับตัวเองว่าซอยนี้มีประวัติการวิ่งราวบ่อย และต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ โดยอนาคตก็อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดและสัญญาณกันขโมยเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้พี่สาวของตัวเองจะเดินทางกลับบ้านในวันที่ 18 เม.ย.นี้



ธีรวัฒน์ 

ข่าวทั้งหมด

X