*ผบ.ทบ.มั่นใจระเบิดสมุยไม่ใช่การขยายพื้นที่ก่อเหตุใต้ ปฎิเสธรัฐสร้างสถานการณ์ใช้ม.44*

ความคืบหน้าการคลี่คลายคดีระเบิดคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินห้างเซ็นทรัส เฟสติวัล ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความมั่นใจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่การขยายผลการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่น่าจะเป็นเหตุผลอื่น ซึ่งยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งออกไป การติดตามผลความเชื่อมโยง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีทหารเข้าไปร่วมดำเนินการด้วย ซึ่งจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เพราะการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น จะไม่ทำอะไรให้ผิดพลาด ทุกคนตั้งใจทำงาน ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะต้องการให้กรณีนี้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด จึงขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการก่อน เพื่อสืบสวนบางอย่าง เราอาจมองเห็นคนที่เกี่ยวพัน แต่ไม่เกี่ยวข้องก็ต้องติดตามต่อไป กรณีมีนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่ออ้างความชอบธรรมในการใช้มาตรา 44 พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์ที่ไม่เข้าความจริงเลย เจ้าหน้าที่รัฐจะไปทำเช่นนั้นทำไม ทำไปก็เป็นการทำลายความหน้าเชื่อถือ การวิเคราะห์ในเชิงนี้ไม่ถูกต้อง และเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นจริง ขอให้มาช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อยจะดีกว่า โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง เพื่ออ้างความชอบธรรมในการใช้มาตรา 44 วัตถุประสงค์หลักคือ ต้องดำเนินการไปตามกรอบโรดแมปที่รัฐบาล และคสช.วางไว้เท่านั้น และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ว่าจะการปฏิรูป การยกร่างรัฐธรรมนูญ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเดินไปได้ด้วยดี พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า มีบางส่วนที่คิดไปเองว่า ถ้าความเรียบร้อยเกิดขึ้น อาจจะเสียผลประโยชน์ ทั้งที่ความสำเร็จของรัฐบาล ก็คือความสำเร็จของชาติ ขอให้คนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ควรจะคิดให้ดี หันมาร่วมมือกันจะดีกว่า

CR:แฟ้มภาพ