ญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลง ขึ้นค่าแรงร้อยละ 3.8 สูงสุดในรอบ 30 ปี ดันขยายตัวเศรษฐกิจ

          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้าง นายโทโมโกะ โยชิโนะ ประธานเร็งโง (Rengo)หรือ สมาพันธ์สหภาพแรงงานญี่ปุ่นว่า การเจรจาเรื่องการปรับขึ้นเงินเดือนประจำปีในวันนี้ ตัวแทนจากบริษัทนายจ้างและสหภาพแรงงานของญี่ปุ่นสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงร้อยละ 3.8 สูงสุดนับแต่ปี 2536 เพื่อให้สอดคล้องกับเงินเฟ้อในเดือนมกราคมซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 4.2 สูงเกินเป้าของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)คือ ร้อยละ 2 อีกทั้งเป็นการปรับขึ้นค่าแรงในอัตราที่สูงกว่าปีที่แล้วคือ ร้อยละ 2.07

        นายโยชิโนะระบุว่า ทั้งสองฝ่ายคือ นายจ้างและแรงงาน เห็นตรงกันที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศให้ดำเนินไปในลักษณะเติบโตไปด้วยกัน ทั้งในด้านจีดีพีของประเทศ การปรับขึ้นค่าจ้างและการปรับขึ้นราคาสินค้าในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นที่มีนโยบายสนับสนุนเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้าง เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือนเมษายนนี้

        การปรับขึ้นเงินเดือนดังกล่าวถือว่าสูงเกินคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 2.95 และมีขึ้นหลังนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ พูดเป็นนัยว่า อาจจะมีการปรับค่าจ้างร้อยละ 3 ซึ่งเป็นมาตรการจำเป็นที่จะช่วยให้ BOJ สามารถผ่อนคลายนโยบายเรื่องอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แม้ว่านายคุโรดะไม่ระบุชัดเจนถึงสาเหตุที่ต้องขึ้นค่าจ้างแต่ผลสรุปของการเจรจาในวันนี้อาจจะเป็นเหตุผลสำหรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆในด้านนโยบาย ภายใต้การบริหารของนายคาซูโอะ อุเอดะ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ คนใหม่ หลังนายคุโรดะ พ้นวาระในเดือนเมษายนนี้

#ญี่ปุ่น

#ปรับขึ้นค่าแรง