เริ่มเข้าสู่หน้าแล้ง หลายหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ที่จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง น้ำทำการเกษตร น้ำอุปโภคบริโภคที่ไม่เพียงพอ การประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ. จึงผนึกกำลังกับกองทัพบก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดโครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง" ประจำปี 2566 กปภ. จะร่วมสนับสนุนน้ำประปาโดยไม่คิดมูลค่า ณ จุดจ่ายน้ำของ กปภ. 234 สาขา นำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยแล้งและประชาชนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร พร้อมมอบถังสำรองน้ำให้แก่ชุมชนสู้ภัยแล้ง 28 แห่งทั่วประเทศ โดยวันนี้ (17 มี ค.66) มีพิธีเปิดโครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง" ประจำปี 2566 อย่างเป็นทางการ
นายวิบูลย์ วงสกุล ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า กปภ.ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ รองรับความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้งที่อาจขาดแคลนน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา จึงได้จัดทำมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พร้อมกำชับให้ กปภ.สาขา ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญ กปภ.ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตร ได้แก่ กองทัพบก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดโครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง" ประจำปี 2566 ซึ่ง กปภ. ร่วมดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 21 ตั้งแต่ปี 2546 ร่วมสนับสนุนน้ำประปาโดยไม่คิดมูลค่า ณ จุดจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค 234 สาขาทั่วประเทศ ให้แก่รถบรรทุกน้ำของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในพื้นที่ประสบภัยแล้งและพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมา กปภ. ร่วมสนับสนุนน้ำประปาโดยไม่คิดมูลค่าแก่ประชาชนที่ประสบภัยแล้งจำนวน 87 ล้านลิตร อย่างในปีนี้ พื้นที่ที่คาดว่าจะประสบภัยแล้งมาก ก็คือพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน ส่วนภาคตะวันตกและตะวันออก อาจมีบางพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำเค็มหนุนเข้ามา แต่ กปภ.มีประสบการณ์กว่า 44 ปีในการแก้ปัญหา และดูแลผลิตน้ำประปาที่มีคุณภาพให้กับประชาชน
นอกจากช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งและเพิ่มความมั่นคงในการส่งจ่ายน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภคให้ลูกค้าและประชาชนอย่างเพียงพอและทั่วถึงแล้ว กปภ. ยังดำเนินโครงการ กปภ. รักษ์ชุมชน มอบถังเก็บน้ำให้แก่ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยในปี 2565 มอบถังเก็บน้ำให้ 39 ชุมชน และดำเนินโครงการต่อเนื่องมาถึง ปี 2566 อีกจำนวน 28 ชุมชน เช่น พื้นที่เทศบาล ตำบลสีชมพู อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น, ชุมชนบือเร็งใน ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส,พื้นที่ ม.8 บ้านห้วยตะเพียนทอง ต.ป่างิ้ว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เป็นต้น
ส่วนแผนระยะยาวทุกปีจะมีการตั้งงบประมาณเป็น 3 ส่วน คือ งบประมาณจากภาครัฐ งบประมาณจากเงินกู้ และงบประมาณที่เกิดจากรายได้ของกปภ.ทุกปี นำไปใช้ในโครงการใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนต่อไป
ในส่วนบทบาทหน้าที่ของพันธมิตรที่ร่วมโครงการ คือ กองทัพบก จะทำหน้าที่จัดกำลังพล ยานพาหนะ ทรัพยากร เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้กับประชาชนบริเวณที่เป็นศูนย์รวมของหมู่บ้าน รวมทั้งแจกจ่ายฟางแห้งสำหรับเป็นอาหารสัตว์ ในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งด้วย
ด้านบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนงบประมาณเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง สนับสนุนถังบรรจุน้ำ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนใช้ในการเก็บน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค,กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สนับสนุนซ่อมบำรุงและปรับปรุงบ่อน้ำบาดาล ให้เป็นจุดจ่ายน้ำถาวรให้กับหน่วยงานในพื้นที่ของกองทัพบก ซึ่งจะครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมายและในพื้นที่อื่นๆ ตามสถานการณ์ของภัยแล้ง,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.จะสนับสนุนกระแสไฟฟ้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในทุกจุดจ่ายน้ำตลอดการดำเนินงานในโครงการ และการประปาส่วนภูมิภาค จะให้การสนับสนุนน้ำประปาให้กับหน่วยงานของกองทัพบก ตลอดเวลาที่ขอรับการสนับสนุนการดำเนินการในปีนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคม โดยให้ความช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะคลี่คลาย
นอกจากนี้ สำนักงานสาขาของการประปาส่วนภูมิภาค ทั้ง 234 สาขา ใน 74 จังหวัด ก็พร้อมให้บริการประชาชน รวมทั้งสายด่วน 1662 และช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่ประชาชนสามารถติดตามข่าวสาร แจ้งขอความช่วยเหลือ หรือร้องเรียนปัญหาต่างๆได้ ทั้งนี้ กปภ. ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เพื่อให้มีน้ำสะอาดใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแลังในปีนี้ และร่วมกันสอดส่องดูแลรักษาความสะอาดของแหล่งน้ำ ช่วยกันอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรน้ำไว้ใช้อย่างยั่งยืน
#การประปาส่วนภูมิภาค
#สู้ภัยแล้ง