*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

16 เมษายน 2558, 08:50น.


+++วันนี้ครบ 7 วัน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย (มท.) สรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยอดรวมสะสม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-14 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ 2,915 ครั้ง เสียชีวิต 306 ศพ บาดเจ็บ 3,070 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก และสุรินทร์ จังหวัดละ 109 ครั้ง โดยจังหวัดสุรินทร์ยังมีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด 15 ศพ และมีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด 124 คน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ เมาสุราร้อยละ 47.15 ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 22.40 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ร้อยละ 78.01  และส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงร้อยละ 65.62 ภาพรวมมีการตั้งจุดตรวจ 2,247 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 7 แสน 68,867 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี 1 แสน 29,634 ราย เช่น ความผิดไม่สวมหมวกนิรภัย 38,147 ราย ไม่มีใบขับขี่ 35,376 ราย



+++ นายสุธี  มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  กล่าวว่า อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นในส่วนของทางหลวงและถนนในหมู่บ้าน ซึ่งอัตราการเกิดอุบัติเหตุในถนนหมู่บ้านค่อนข้างสูงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงต้องใช้มาตรการทางสังคมช่วยดูแล ในวันที่ประชาชนเดินทางกลับ คงต้องมีการปรับแผนบ้าง เช่นจุดที่เกิดเหตุเป็นประจำต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ส่วนการบริการสาธารณะก็ขอความร่วมมืออย่าให้มีผู้โดยสารตกค้าง



+++นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 2-14 เม.ย. ใน 40 จังหวัดและกรุงเทพฯ พบผู้กระทำผิดถูกดำเนินคดีด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 535 ราย ความผิดที่พบมากที่สุด คือ การโฆษณาส่งเสริมการขาย 193 ราย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,00 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกโฆษณา รองลงมา ได้แก่ ดื่มในสถานที่ต้องห้าม ส่วนใหญ่ดื่มบนถนน 124 ราย มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่เหลือเป็นการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาต้องห้าม 78 ราย ขายแบบลดแลกแจกแถม 73 ราย ขายโดยไม่มีใบอนุญาต 59 ราย และขายในสถานที่ห้ามขาย เช่น ในปั๊มน้ำมัน 37 ราย



+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึง ผลงานของรัฐบาลตลอด 6 เดือน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กำหนดจะแถลงผลงานรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาลในวันศุกร์ที่ 17 เม.ย. ในส่วนงานด้านความมั่นคงคิดว่าเป็นผลงานที่สำคัญของรัฐบาล ช่วยทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้  นอกจากนี้ยังมีประเด็นปลีกย่อยเรื่องความมั่นคงบางประเด็นที่เป็นประเด็นหลักเหมือนกัน เช่น เรื่องการค้ามนุษย์ที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน เรื่องยาเสพติด ส่วนด้านเศรษฐกิจ ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า รัฐบาลยังมองภาพรวมทั้งการส่งออก หรืออย่างการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนที่มีรายได้น้อย คนที่ประกอบอาชีพอิสระ รัฐบาลยังมีอีกหลายโครงการในเรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การกระตุ้น การใช้จ่ายภาครัฐ



+++พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ยังไม่พอใจกับผลงานของตัวเองหลังเข้ามารับตำแหน่ง 6 เดือน โดยได้พยายามผลักดันการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานด้านคมนาคมตามนโยบายรัฐบาลหลายโครงการ แต่งาน กลับเดินหน้าไม่มาก ผลที่ออกมาส่วนใหญ่หมดไปกับเรื่องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเสียมากกว่า โครงสร้าง พื้นฐานที่ยังไม่มีความคืบหน้าตามเป้าหมายหรือล่าช้ากว่ากำหนด อาจมีความจำเป็นจะต้องใช้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 ในการเร่งผลักดันในแต่ละโครงการ เช่น เรื่องผลกระทบจากข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยทางการบินขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ต้องใช้แน่นอน หรือการตั้งหน่วยงานใหม่ของกรมขนส่งทางอากาศ ที่จะแทนกรมการบินพลเรือน เรื่องการแก้ไขกฎหมายพวกนี้มีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรา 44 เข้ามาช่วยดำเนินการให้เร็วขึ้น การแก้ไขปัญหาแท็กซี่ก็ยังไม่จบ การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีก็ยังติดขัด การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินอู่ตะเภา การก่อสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ และทางด่วน เป็นเรื่องที่ต้องเห็นเป็นรูปธรรมในรัฐบาลนี้



+++ความเคลื่อนไหวตลาดน้ำมันโลก น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานว่ากำลังผลิตน้ำมันของประเทศ ลดลง 20,000 บาร์เรลต่อวันหรือร้อยละ 0.2 สู่ระดับ 9.38 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 เม.ย.



+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดบวกในกรอบแคบๆ จากแรงหนุนกลุ่มพลังงาน ตามหลังราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่องและความคาดเดาว่ารายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆที่กำลังจะเผยแพร่ออกมา อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดไว้ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 75.91 จุด  ปิดที่ 18,112.61 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.79 จุด ปิดที่ 2,106.63 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 33.73 จุด ปิดที่ 5,011.02 จุด นักลงทุนกังวลว่ารายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆ จะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและสภาพอากาศเลวร้ายทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯ  



+++ส่วนราคาทองคำ  ปิดบวกพอสมควร จากแรงช้อนซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความกังวลต่อปัญหาทางการเงินที่กรีซต้องเผชิญ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,201.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์  เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ยังไม่เฉียดใกล้จุดที่จะปล่อยเงินกู้แก่กรีซ ขณะที่รัฐบาลกรีซเรียกร้องว่า อาจหมดเงินสดเร็ววันนี้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ สถานการณ์ดังกล่าวก่อแนวโน้มแห่งการผิดนัดชำระหนี้และบางทีอาจถึงขั้นออกจากยูโรโซน



+++ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะปรับประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะโตร้อยละ 3-3.5 การส่งออกโตร้อยละ 0-1 โดยต้องพิจารณาการส่งออกอีกครั้ง



+++แสดงความเสียใจ โค้ชแต๊ก อรรถพล ปุษปาคม หัวหน้าโค้ชทีม "เพื่อนตำรวจ"  และอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย วัย 52 ปี ที่ป่วยด้วยอาการปอดติดเชื้อ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หาดใหญ่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ก่อนย้ายมาที่ โรงพยาบาลพระราม 9 เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินมาโดยตลอดเพราะอาการโคม่า ล่าสุด โค้ชแต๊ก ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยอาการติดเชื้อที่กระแสเลือด เมื่อเช้านี้ ที่โรงพยาบาลพระราม 9  โดยญาติจะตั้งศพไว้ที่วัดธาตุทอง โดยจะมีการรดน้ำศพในวันนี้ รวมถึงสวดพระอภิธรรมศพ ณ วัดธาตุทองด้วย  และในวันนี้ สโมสรจะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง



+++เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังติดตามคนร้ายในคดีหญิงสาวถูกฆาตกรรมทารุณทิ้งศพในห้องน้ำห้องพักโรงแรมชื่อดัง กลางเมืองเชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้แล้วว่าผู้ตายคือ นางสาวสมร คลังเดช อายุ 33 ปี ชาวร้อยเอ็ด ทำงานร้านซูบารุบาร์เบียร์ ย่านถนนลอยเคราะห์ ซอย 3 อ.เมืองเชียงใหม่ และพักอาศัยอยู่กับเพื่อนในอาคารดวงตะวัน คอนโดมิเนียม ย่านเดียวกับที่ทำงาน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเพื่อนสาวที่พักอยู่ด้วยกัน รวมทั้งเพื่อนๆ ที่ทำงาน ไปตรวจสอบหาข้อมูลและเบาะแส ทราบว่าหลังร้านปิด ผู้ตายได้ไปเที่ยวต่อที่สถานบริการย่านถนนคชสาร ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่ไปพบกับคนร้าย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม เจ้าหน้าที่พบคนร้ายเป็นชาย อายุประ มาณ 40 ปี รูปร่างผอม สูง สวมเสื้อลายสกอตสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาว หลังก่อเหตุได้ออกจากโรงแรม โดยขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม ออกไปในช่วงเวลา 09.45 น. วันที่ 13 เม.ย.  พ.ต.อ.วีรยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ. เมืองเชียงใหม่ เตือนพนักงานสาวๆ สถานบริการ ร้านคาราโอเกะ และร้านบาร์เบียร์ ในระยะที่เจ้าหน้าที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ให้ระมัดระวังในการออกไปเที่ยวกับลูกค้า ซึ่งอาจเป็นคนร้าย โดยเชื่อว่ายังไม่เลิกพฤติกรรมวิปริตดังกล่าว



       



 

ข่าวทั้งหมด

X