บีบีซี รายงานว่า ชาวบ้านกว่า 400,000 ครัวเรือนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในสหรัฐฯ หลังอากาศแปรปรวน มีพายุเฮอร์ริเคนกระหน่ำจากจากทั้งสองชายฝั่งของมหาสมุทรคือ มหาสมุทรแปซิฟิกทางฝั่งตะวันตก และมหาสมุทรแอตแลนติกทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯด้วยความแรงลมกว่า 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีฝนตกหนัก พายุ น้ำท่วมและลมกระโชกแรง
แม่น้ำหลายแห่งล้นตลิ่งและเกิดเหตุดินสไลด์ในรัฐแคลิฟอร์เนียทางภาคตะวันตกของสหรัฐฯ มี 40 เคาน์ตี้จากทั้งหมด 58 เคาน์ตี้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย อยู่ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนฝั่งตะวันออกของประเทศ เช่น บางท้องที่ของรัฐแมสซาชูเซตส์ รัฐนิวยอร์ก และรัฐนิวแฮมป์เชียร์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ มีหิมะตกสะสมสูง 3 ฟุต อีกทั้งมีพายุกระหน่ำจากทั้งสองฝั่งของประเทศเมื่อเช้าวันนี้ แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานเรื่องความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน
พายุแผ่ปกคลุมตลอดพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทำให้หิมะตกหนัก ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น รวมถึงเสาไฟฟ้าหักโค่นในลานจอดรถแห่งหนึ่งในย่านบร็องซ์ นครนิวยอร์ก และมีกระแสลมแรงกว่า 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โรงเรียนและธุรกิจ เช่น ห้างร้าน หลายรายแห่งในท้องถิ่นปิดชั่วคราวในวันนี้ ขณะเดียวกัน รัฐนิวยอร์ก และอีกหลายเคาน์ตี้ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯอยู่ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินเช่นเดียวกัน
ที่เมืองเดอร์รี รัฐนิวแฮมป์เชียร์ สำนักงานดับเพลิงเมืองเดอร์รี โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า ลมกระโชกแรง ทำให้ต้นไม้ล้มทับเด็กคนหนึ่งท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจท้องถิ่นใช้เวลา 19 นาทีใช้เลื่อยตัดไม้และพลั่วขุดตักหิมะจนกระทั่งช่วยเหลือเด็กได้สำเร็จ โดยเด็กบาดเจ็บเล็กน้อย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวเด็กไปโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียง
#สหรัฐฯ
#อากาศแปรปรวน