อินโดฯประท้วงเรียกทูตซาอุฯมาชี้แจงการประหารชีวิตพลเมืองอินโดฯ

หลังจากซาอุดีอาระเบีย ลงโทษตัดศีรษะนางซิติ ไซนับ แม่บ้านชาวอินโดนีเซีย ที่เมืองเมดินา หลังจากถูกจับกุมนานกว่า15 ปี ในข้อหาใช้มีดแทงนายจ้างเสียชีวิต สำนักข่าวบีบีซี รายงานอ้างนางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้เรียกนายมุสตาฟา อิบราฮิม อัลมูบารัก เอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำกรุงจาการ์ตาเข้าพบในวันนี้ เพื่อประท้วงและขอคำชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น  โดยไม่มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่กงสุลอินโดนีเซียหรือครอบครัวของเธอทราบก่อน แม้ว่าคดีนี้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียและผู้นำก่อนเขาทั้ง 3 คนได้ขอให้ทางการซาอุดิอาระเบียอภัยโทษให้นางไซนับ ก็ตาม  ศาลซาอุดิอาระเบีย ตัดสินว่า นางไซนับมีความผิดฐานใช้มีดจ้วงแทงและทำร้ายร่างกายนายจ้างคือนายนูรา อัลโมโรเบ จนเสียชีวิตเมื่อปี 2542  ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนของอินโดนีเซียและองค์การนิรโทษกรรมสากล วิจารณ์คำตัดสิน  ระบุว่านางไซนับ ทำการเพื่อป้องกันตัวเองและอาจจะมีอาการป่วยทางจิตด้วยเนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ ถูกนายจ้างกดขี่มาโดยตลอด

หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลอินโดนีเซียได้ขอร้องรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของซาอุฯเพื่อเข้าพบนางไซนับและขออภัยโทษจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยพร้อมเสนอจ่ายเงินให้ญาติผู้ถูกฆาตกรรมจำนวน 1 แสน 54,410ดอลลาร์สหรัฐแต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่สามารถขัดขวางการลงโทษประหารชีวิตได้ ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ใช้โอกาสที่นางไซนับถูกลงโทษตัดศีรษะ เรียกร้องให้อินโดนีเซียล้มเลิกการสนับสนุนการลงโทษประหารชีวิตขณะที่อินโดนีเซียเดินหน้าแผนการประหารชีวิตนักโทษต่างชาติหลายคนในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด