ภาพรวมของธุรกิจประกันภัยในปี 2565 มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนตระหนักถึงความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นง่าย ทั้งเรื่องของอุบัติเหตุ โรคภัยไข้เจ็บ ประชาชนจึงเลือกใช้การประกันภัยมาช่วยบริหารความเสี่ยง จึงเป็นปัจจัยบวกทำให้ภาพรวมของธุรกิจประกันภัยในปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ยังครองอันดับ 1 ผู้นำธุรกิจประกันวินาศภัย
นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ประเมินว่า ภาพรวมธุรกิจประกันภัยจะเติบโตขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.5 โดยในส่วนของบริษัทวิริยะประกันภัย ปี 2565 มีเบี้ยประกันภัยรับ รวมทั้งสิ้น 40,991 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5.78 แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 35,847 ล้านบาท ส่วนเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือนอนมอเตอร์ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 5,144 ล้านบาท ขณะที่สถานะการเงินวิริยะประกันภัยยังคงมีความมั่นคงเหมือนเดิม โดยมีสินทรัพย์อยู่ที่ 69,946.94 ล้านบาท และอัตราส่วนเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมายยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่ามาตรฐาน โดยมีอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 154.97 ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อวิริยะประกันภัย และตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของธุรกิจประกันวินาศภัย
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทวิริยะประกันภัย ในปี 2566 ภายใต้แนวคิด "ปีแห่งนวัตกรรมบริการ : ทุกความเสี่ยงภัย เราพร้อมเคียงข้างคุณ" ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 43,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 6 แบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรถยนต์ประมาณ 37,600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 5,เบี้ยประกันภัยนอนมอเตอร์ ประมาณ 5,700 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 11 โดยต่อยอดพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้หน่วยงานของบริษัททุกสาขาทั่วประเทศ มีมาตรฐานทางเทคโนโลยีเดียวกัน มีเป้าหมายหลัก 3 เป้าหมาย คือ
1.เป้าหมายด้านช่องทางการขาย ยกระดับสำนักงานตัวแทนเป็นสำนักงานดิจิทัล สามารถออกกรมธรรม์ให้ลูกค้าได้เอง โดยไม่ต้องรออนุมัติจากส่วนกลาง และกรมธรรม์ตัวจริงแบบกระดาษหรือกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถส่งตรงถึงโทรศัพท์มือถือของลูกค้าทันที สะดวกทั้งกับตัวแทนและลูกค้า ลดการเดินทาง และลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองทันทีที่ตกลงทำสัญญาประกันภัย
2. เป้าหมายด้านการบริการสินไหมทดแทน นอกจากระบบเคลมออนไลน์ ผ่านวีดีโอคอล "VClaim on VCall" ที่ขยายการบริการไปทั่วประเทศแล้ว ยังขยายพื้นที่ให้บริการที่เรียกว่า "จุดรอตรวจสอบอุบัติเหตุ" รวมทั้งจัดหา AI มาทำหน้าที่ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น ควบคู่กับพนักงานสินไหมทดแทนที่มีประสบการณ์ เพื่อที่จะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
3. เป้าหมายด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันวิริยะประกันภัย มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความเสี่ยงภัย ตรงความต้องการของผู้บริโภค รวมกว่า 60 ผลิตภัณฑ์ ในปีนี้จะลงลึกถึงความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค ทั้งการประกันภัยรถยนต์หรือประกันภัยสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ความคุ้มครองเฉพาะตัวและตรงข้อเท็จจริงของแต่ละบุคคล
ส่วนการรับประกันภัยรถไฟฟ้า วิริยะประกันภัยได้เตรียมความพร้อมมากว่า 4 ปีแล้วปัจจุบันวิริยะประกันภัยได้ให้ความคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วจำนวน 5,286 คัน และยังคงเป็นบริษัทที่รับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน
ด้านนายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 วิริยะประกันภัย ยังให้ความสำคัญกับการบริการด้านสินไหมทดแทน ซึ่งเป็นหัวใจที่ทำให้วิริยะประกันภัย ได้รับการยอมรับ โดยจะสานต่อนโยบายบริหารสินไหมแบบองค์รวม คือ ดูแลทุกองค์ประกอบสำคัญของงานสินไหมที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน ได้แก่ เครือข่ายศูนย์บริการสินไหม,บุคลากร,ข้อมูล และนวัตกรรม หรือ NPDI โดยประสานข้อมูลร่วมกับโรงพยาบาลคู่สัญญา เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค ขยายเครือข่ายศูนย์บริการสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย ง่ายในการเข้าถึงบริการ เช่น เปิดจุดบริการเคลื่อนที่เร็วในย่านการจราจรที่หนาแน่น หรือ จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ฝึกอบรมพนักงานสำรวจอุบัติเหตุของวิริยะประกันภัย หรือ "พนักงานเคลม" ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้บริการกับผู้เอาประกันภัยอย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ วิริยะประกันภัยได้พัฒนา "ระบบข้อมูลสินไหมอัจฉริยะ" (Intelligence Claim System by Blg Data Analyic: BDA) โดยใช้จุดแข็งของวิริยะประกันภัยที่อยู่ในธุรกิจมายาวนานกว่า 76 ปี นำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้เอาประกันภัย ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนางานสินไหม พัฒนานวัตกรรมด้านประกันภัยที่ทันสมัย เช่น การดูแลสินไหมรถยนต์ไฟฟ้า
ส่วนแผนงานด้านการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์หรือ Non-Motor นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ภาวะเศรษฐกิจไทยค่อย ๆ ฟื้นตัว หลังการระบาดของโรคโควิด-19 วิริยะประกันภัย จึงมุ่งเนันการปรับปรุงระบบงานพื้นฐานต่าง ๆให้มีประสิทธิภาพขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริการประกันภัย , การปรับปรุง Website เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำการตลาดแบบ Personalization Markeing ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งโครงการต่างๆ จะสามารถเริ่มใช้งานได้ในช่วงต้นปี 2567
ส่วนในไตรมาส 2 ของปีนี้ ระบบ CRM ในส่วนของการให้บริการ Call Centerและการให้บริการต่ออายุประกันสุขภาพและอุบัติเหตุจะแล้วเสร็จ เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยในปีนี้ วิริยะประกันภัยวางแผนขยายอัตราส่วนประกันภัย Non-Motor เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.65 โดยยังคงเน้นขยายงานผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่วนบุคคลเป็นหลัก ทั้งประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด สำหรับกรณีรถเสีย ประกันภัยสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ผลิตภัณฑ์ธุรกิจปลอดภัยที่มีประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจ SME's รวมถึงออกแบบแพ็กเกจประกันภัยที่ทำงานคุ้มครองคู่กัน ทั้งรถชนและรถเสีย คุ้ม ครบ จบที่วิริยะประกันภัย
บริษัทวิริยะประกันภัย ยืนยันว่า มีความพร้อมสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มครองที่ซับซ้อน ครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น ความพึงพอใจสูงสุด และได้รับประสบการณ์ที่ดีในทุกการบริการ
#วิริยะประกันภัย