ส่งสำนวนเอาผิด 116 ตม.เอื้อทุนจีนสีเทาให้ ป.ป.ช. เอกสารกว่า 139,000 แผ่น

         ความคืบหน้ากรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยายผลทลายกลุ่มทุนจีนสีเทา จากการจับกุมผับจินหลิง  นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพบตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 116 นาย มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือกลุ่มทุนจีนให้สามารถอยู่ต่อในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เช่น การสร้างหลักฐานเกี่ยวกับการเรียนภาษา หรือ เป็นสมาชิกของมูลนิธิและสมาคมต่างๆ

          ล่าสุด วันนี้  (9 มี.ค.66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  มาร่วมสังเกตการณ์ การนำสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวของคณะพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวัน  ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น  เสนอต่อเลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย  โดยระบุว่า ในสำนวนมีการสอบปากคำพยานไปมากถึง 446 ปาก มีเอกสารพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีมากถึง 139,000 แผ่น ซึ่งคณะพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาแล้ว เห็นควรดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 107 นาย ในความผิด มาตรา 157  ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต  และสั่งฟ้องอีก 9 คน (จาก 107 คน) ในความผิดตามมาตรา 149 ฐาน เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ   ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์  ชัยภูมิ  ยโสธร  ร้อยเอ็ด  นครราชสีมา  ขอนแก่น สกลนคร แพร่  และเชียงใหม่

          สำหรับผู้ต้องหาที่เป็น ตำรวจ ยศนายพล จำนวน 3 นาย  ก่อนหน้านี้ไม่ได้เรียกมาสอบปากคำ  แต่ยืนยันว่าทั้ง 3 นาย ตกเป็นผู้ต้องหาในฐานความผิด มาตรา 157  ด้วย  แม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น แต่หากทำผิดก็ต้องดำเนินคดี  รวมทั้งนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้วก็จะมีขั้นตอนในการดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน

          ส่วนกรณีที่มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าตนเองปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวน  ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ผู้ร้องเรียนสามารถกระทำได้ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบในทุกมิติของกระบวนการทำงาน ตนเองยินดีที่จะให้มีการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสกับทุกฝ่าย แต่ยืนยันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิรูปการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพราะเป็นด่านหน้าของประเทศ เพื่อลดปัญหาคนต่างชาติเข้ามาทำผิดกฎหมายในประเทศไทยได้

          พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ยังระบุว่า การสืบสวนขยายผลจากคดีนี้  พบมีกลุ่มคนจีนเข้ากว้านซื้อหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบอย่างน้อย 4- 5 โครงการ โดยเป็นการซื้อเหมาทั้งโครงการ ไปจนถึงการพยายามที่จะซื้อโรงเรียนเอกชนและว่าจ้างคนไทยในกลุ่มอาชีพหัตถการ งานฝีมือด้านต่างๆไป ว่าจ้างทำผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งออกจำหน่ายไปยังประเทศจีน

#ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

#ทุนจีนสีเทา

#นอมินีกลุ่มทุนจีน