ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า จะไม่มีการเจรจากับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จนกว่ากองทัพรัสเซียจะออกไปจากดินแดนของยูเครน เพราะนี่คือการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ประชาธิปไตย และค่านิยมของยูเครน และกล่าวว่า ทหารยูเครนต้องควบคุมเมืองบัคมุตไว้ให้ได้ แม้ว่าจะมีการต่อสู้อย่างหนักกับทหารรัสเซียมานานหลายสัปดาห์ จนเกิดความเสียหายทั้งเมือง เพราะหากทหารรัสเซียยึดเมืองนี้ไว้ได้ ก็จะเท่ากับเป็นการเปิดทางให้รัสเซียรุกคืบเข้ายึดเมืองสำคัญในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและมีประชากรหนาแน่น ทั้งยืนยันว่า เมืองบัคมุตไม่ได้ถูกปิดล้อม และจนถึงวันนี้ ชาวเมืองก็ยังสามารถเดินทางออกจากเมืองได้ ขณะที่กองทัพยูเครนได้รับอาวุธ และเสบียง มีความพร้อมต่อการต้านทานกองทัพรัสเซีย
คำกล่าวของประธานาธิบดียูเครนมีขึ้นหลังจากที่มีนักวิเคราะห์จากฝั่งตะวันตกหลายคน รวมถึงนายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต คาดการณ์ว่า ยูเครนจะถอนทหารออกจากเมืองบัคมุตภายในไม่กี่วันข้างหน้า
ส่วนกรณีที่นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ตั้งคำถามว่า สหรัฐฯ ควรให้การสนับสนุนยูเครนต่อไปหรือไม่ ทำให้ประธานาธิบดีเซเลนสกี ขอเชิญให้นายแมคคาร์ธีเดินทางเยือนยูเครนเพื่อติดตามสถานการณ์โดยตรง
อย่างไรก็ตาม นายแมคคาร์ธี ปฏิเสธคำเชิญของประธานาธิบดียูเครน และกล่าวว่า เขาสนับสนุนการต่อสู้ของยูเครน แต่ไม่สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือแบบ “เช็คเปล่า” ที่ยูเครนมีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการรับรองว่ามีการตรวจสอบและกำกับดูแลความช่วยเหลือต่าง ๆ ก็ตามและยืนยันว่า รีพับลิกันจะไม่เห็นชอบความช่วยเหลือโดยง่ายดายตามคำร้องของฝ่ายบริหารอีกต่อไป
สหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือเกือบ 32,000 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน นับตั้งแต่กองทหารรัสเซียรุกรานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 แต่พรรครีพับลิกันฝ่ายขวาจัดไม่เห็นด้วยที่จะส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยอ้างถึงการที่สหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับการขาดดุลงบประมาณ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะถึงขีดจำกัดหนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
…
#ยูเครน
#อาวุธสหรัฐ
#รัสเซีย