หลังเกิดเหตุการณ์ นายบุญชู อายุ 67 ปี แรงงานไทยที่ลักลอบไปทำงานในฟาร์มหมู ประเทศเกาหลีใต้ อย่างผิดกฎหมาย หายตัวไปจนกลุ่มคนไทยในเกาหลีใต้พากันออกตามหาและแจ้งตำรวจ จนกระทั่งพบว่า นายบุญชูเสียชีวิต โดยนายจ้างนำศพไปทิ้งบนภูเขาหลังฟาร์ม
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบประสานความช่วยเหลือ ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงาน สั่งการให้ทูตแรงงานที่เกาหลีใต้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เบื้องต้นได้รับรายงานว่า นายบุญชู มีภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดขอนแก่น ไม่ได้แจ้งการเดินทางผ่านกรมการจัดหางาน (กกจ.) และไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ยังต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่สันนิษฐานว่า อาจเสียชีวิต เพราะปัญหาสุขภาพหรือเพราะสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขอนามัย หรือเพราะสภาพอากาศ
ส่วนนายจ้าง ที่ชื่อนายคิม ถูกตำรวจเกาหลีใต้ จับกุมในข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ และเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนลูกชายของนายจ้างว่ามีส่วนร่วมหรือไม่ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล จะประสานงานในเรื่องคดีกับทางการเกาหลีใต้ เพื่อตรวจสอบติดตามสิทธิประโยชน์ที่พึงมีของนายบุญชู เช่น ค่าจ้างที่นายจ้างค้างจ่าย
ด้านนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้สั่งให้แรงงานจังหวัดขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น เพื่อไปเยี่ยมบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งไปพบกับ น.ส.มะลิ ภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นอาสาสมัครแรงงานตำบลทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น
จากการพูดคุย ทราบว่า น.ส.มะลิ มีลูกชาย 1 คน อายุ 34 ปี ขณะนี้ลูกชายทำงานที่บริษัท อิตาเลียนไทย ที่จังหวัดสระบุรี โดยในวันพรุ่งนี้ (10 มี.ค.66) น.ส.มะลิจะเดินทางพร้อมลูกชาย ไปจัดการศพนายบุญชูที่เกาหลีด้วยตัวเอง โดยนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบเงินจำนวน 10,000 บาท ให้แก่ภรรยาของผู้เสียชีวิตด้วย ขณะที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดขอนแก่น แจ้งสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 มีเงินบำเหน็จชราภาพอยู่ประมาณ 1,700 บาท เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ทายาทตามกฎหมายต่อไป
ปลัดกระทรวงแรงงาน ยังเตือนแรงงานไทยที่คิดจะไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายจะไม่ได้รับการดูแลตามสิทธิที่พึงมี หากเจ็บป่วยในต่างประเทศค่าใช้จ่ายจะสูงมาก และยังมีโอกาสถูกนายจ้างเอาเปรียบได้
ปัจจุบันการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางานจัดส่ง บริษัทจัดหางานจัดส่ง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และคนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง รวมทั้งแนะนำให้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการจัดหางาน หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
#ลุงบุญชู
#ผีน้อย
#เกาหลีใต้