นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 โดยได้กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร เมื่อคืนนี้(8 มี.ค.66) ตามเวลาในประเทศไทย หลังจากที่เมื่อวันที่ 7 มี.ค.66 ได้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา
นายพาวเวล กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งเกินคาดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ย้ำว่า ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 มี.ค.66 เฟดยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะเฟดจะพิจารณาข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ
นายพาวเวล ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.66ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์(10 มี.ค.66) เป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ ตลาดแรงงานมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 517,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.66 และอัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 53 ปี ขณะที่ ในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค เมื่อเดือนม.ค.66 เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน เนื่องจาก ราคาที่อยู่อาศัย ก๊าซและเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ ตัวเลข CPI เป็นตัวเลขที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการเปรียบเทียบกับราคาในปีที่กำหนดไว้เป็นปีฐาน
CNBC รายงานว่า การประชุมในวันที่ 21-22 มี.ค.66 จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิดว่า เฟด ในฐานะผู้กำหนดนโยบายเลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50%
นายสตีเวน บลิทซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัททีเอส ลอมบาร์ด กล่าวว่า เฟดจะไม่ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอย เศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอยอย่างแน่นอน และเฟดจะกดดันจนกว่าอัตราการว่างงานแตะระดับ 4.5% เป็นอย่างน้อย และคาดว่าอาจไปสูงถึง 5.5% ขณะที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนแตะระดับ 6.5% ก่อนที่สิ่งต่างๆจะชะลอตัวและปรับตัวลงอย่างแท้จริง
ขณะที่ โกลด์แมนแซค เพิ่มการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วง5.5-5.75% สอดคล้องกับ FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 72.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.66 และให้น้ำหนักเพียง 28.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
#เฟด
#ดอกเบี้ย
แฟ้มภาพ
รายละเอียดเพิ่มเติม:https://www.js100.com/en/site/news/view/127416
https://www.js100.com/en/site/news/view/127417
CR:CNBC