ความคืบหน้ากรณีที่มีชาวอเมริกัน 4 คนถูกลักพาตัวในเม็กซิโก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจเปิดเผยว่า พบศพของชาวอเมริกัน 2 ใน 4 คนแล้ว ส่วนอีก 2 คนยังมีชีวิตอยู่และส่งกลับไปสหรัฐฯ แล้ว
ตำรวจเม็กซิกัน เปิดเผยว่า พลเมืองสหรัฐ 4 คน ประกอบไปด้วยชาย 3 คนและหญิง 1 คนถูกกลุ่มติดอาวุธลักพาตัวเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 25466 พวกเขาเดินทางข้ามพรมแดนจากเท็กซัส เข้าไปในเมืองมาทาโมรอสในรัฐตาเมาลีปัส ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก เพื่อไปทำศัลยกรรมเสริมความงาม จากนั้นเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายทั้ง 2 ราย และพบผู้รอดชีวิต 2 คนเป็นชาย 1 คนหญิง 1 คน ถูกส่งกลับไปสหรัฐฯ ในวันอังคาร (7 มี.ค.) โดยความร่วมมือกับสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองมาทาโมรอส
โดยมีผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัว 1 คน เป็นชายอายุ 24 ปีจากตาเมาลีปัส
ประธานาธิบดี อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ แห่งเม็กซิโก กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเม็กซิโก และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อน และรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าเม็กซิโกจะมีการทำงานเพื่อรับประกันสันติภาพและความเงียบสงบ
เจ้าหน้าที่เม็กซิโก คาดว่า ผู้ก่อเหตุคือกลุ่มอาชญากรที่มีชื่อว่า “กัล์ฟ” (Gulf Cartel) และมีข้อสันนิษฐานว่าทั้ง 4 คนอาจถูกเข้าใจผิดว่าขบวนการค้ายาเสพติดที่เป็นศัตรูกัน หรืออาจไปพบเห็นเหตุการณ์สำคัญของกลุ่ม เนื่องจากมีหญิงชาวเม็กซิกันอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ขณะที่มีการลักพาตัวถูกคนร้ายสังหาร
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการสืบสวนสอบสวนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น โดยเมืองมาทาโมรอส อยู่ในรัฐตาเมาลีปัส เป็น 1 ใน 6 รัฐของเม็กซิโกที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แนะนำให้นักท่องเที่ยวไม่ควรไปเพราะมีเหตุอาชญากรรมและการลักพาตัวเกิดขึ้นบ่อย โดยเมืองมาทาโมรอสเป็นหนึ่งในเมืองที่อันตรายที่สุดในประเทศ เนื่องจากขบวนการค้ายาเสพติดควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของรัฐ และมีอำนาจมากกว่าผู้บังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่น
....
#ลักพาตัวชาวอเมริกัน
#เม็กซิโก