รอยเตอร์และเอพี รายงานอ้างสำนักงานศุลกากรของจีนว่า การส่งออกของจีนในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ลดลงอีกครั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าลดลงอีกครั้งในอัตราที่เร็วกว่าเดิม สะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งอ่อนแอ ทั้งนี้ สำนักงานศุลกากรพิมพ์เผยแพร่ตัวเลขการค้าใน 2 เดือนแรกของปีนี้รวมกัน เพื่อความสะดวกในการคำนวณตัวเลขต่างๆ เนื่องจาก มีการเปลี่ยนแปลงช่วงเทศกาลตรุษจีนจากเดือนกุมภาพันธ์มาอยู่ที่มกราคม
การส่งออกของจีนในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 506,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 6.8 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังดีกว่าตัวเลขคาดการณ์จากผลสำรวจของรอยเตอร์ซึ่งสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งคาดว่าการส่งออกของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้จะร่วงลงร้อยละ 9.4 ส่วนการนำเข้าของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 389,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 10.2 แต่สูงกว่าผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดว่าการนำเข้าของจีนจะลดลงร้อยละ 5.5
ตัวเลขการได้เปรียบดุลการค้าของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 116,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับตัวเลขการค้าของจีนในเดือนธันวาคมปีที่แล้วบ่งชี้ว่าการส่งออกของจีนลดลงร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบตัวเลขปีต่อปี สอดคล้องกับอุปสงค์ที่อ่อนแอทั่วโลก ส่วนการนำเข้าของจีนในเดือนธันวาคมปีที่แล้วลดกว่าร้อยละ 7.5
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนคาดว่าการนำเข้าของจีนจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และความมั่นใจของผู้บริโภคจะกลับมา หลังรัฐบาลจีนยกเลิกนโยบายลดโรคโควิด-19 เหลือศูนย์ ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แม้ว่าคณะผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลจีนยอมรับว่าการส่งออกของจีนในปีนี้จะประสบความยากลำบาก เนื่องจากมีแนวโน้มสูงขึ้นที่ทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน แถลงต่อที่ประชุมสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติจีนในกรุงปักกิ่งเมื่อวาน ตั้งเป้าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตร้อยละ 5 ในปีนี้ หลังเติบโตร้อยละ 3 เมื่อปีที่แล้ว นับว่า ต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี
#จีน
#เศรษฐกิจ